กลุ่มแบงก์บวก-เทรดคึกคัก ลุ้นกนง.ขึ้นดอกเบี้ย-เก็งผลประกอบการ Q2/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 14, 2010 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นกลุ่มแบงก์ดีดตัวยกแผงรับคาดการณ์ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ปรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายวันนี้เป็นขาขึ้น เริ่มจากการปรับขึ้นในระดับ 0.25% หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยต่ำมานาน โดยปัจจุบันอยู่ที่ 1.25%

เมื่อเวลา 10.07 น.

หุ้น BBL บวก 0.78% มาอยู่ที่ 128.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

หุ้น SCB บวก 1.19% มาอยู่ที่ 85.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

หุ้น KBANK บวก 1.08% มาอยู่ที่ 94.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

หุ้น KTB บวก 0.77% มาอยู่ที่ 13.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

หุ้น BAY บวก 1.02% มาอยู่ที่ 19.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

นักวิเคราะห์ บล.นครหลวงไทย กล่าวว่า มีแรงเก็งกำไรเข้ามาแทบทุกตัวในกลุ่มแบงก์จากการคาดการณ์ผลประชุมกนง.ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าจะยังไม่มีผลโดยตรงในขณะนี้ แต่ทางจิตวิทยามีผลไปแล้ว โดยเฉพาะคำกล่าวของรมว.คลังที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นการคอนเฟิร์ม แม้ว่าในข้อเท็จจริงจะยังมีโอกาสที่กนง.จะไม่ปรับขึ้นในครั้งนี้ แล้วไปปรับครั้งหน้า แต่ก็ทำให้มีการเล่นข่าวไปก่อนแล้ว

ส่วนการปรับขึ้นดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารพาณิชย์ อยู่กับการพิจารณาความเหมาะสมในด้านสภาพคล่อง และการแข่งขัน

นอกจากนั้น ยังมองว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์ได้ปรับลดลงมาแล้วก่อนหน้านี้ ประกอบกับมีการคาดการณ์ผลประกอบการที่กำลังจะประกาศออกมาที่น่าจะเติบโตขึ้น และยังมีการเล่นข่าวรายตัว เช่น SCB ที่กำลังมีข่าวเจรจาขายหุ้น SICCO ทำให้มีแรงเข้ามาซื้อกลับมาเล่นกลุ่มแบงก์ใหม่อีกรอบ

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ระบุว่า ตลาดคาดว่าการประชุม กนง.วันนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.25% เป็น 1.50% ซึ่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตตลาดจะมีปฏิกิริยาเชิงลบช่วงสั้น โดยเฉพาะครั้งนี้ถือว่าจะขึ้นเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ถ้าภาพของการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ตลาดก็จะสามารถกลับมาปรับตัวขึ้นได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการขึ้นดอกเบี้ยเป็นผลเสียต่อตลาดหุ้น เพราะถือว่าเป็นการเพิ่มต้นทุนทางการเงินแก่บริษัทจดทะเบียน แต่โดยส่วนใหญ่กลุ่มแบงค์จะได้ประโยชน์จากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงแรกๆ เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะกว้างขึ้น ในขณะที่การเติบโตของสินเชื่อยังสามารถขยายตัวได้อยู่

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุว่า ในวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นในปี 47 นั้น ตลาดหุ้นไทยปรับฐานค่อนข้างแรงก่อนที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจริง แต่หลังจากดอกเบี้ยปรับขึ้นแล้วนั้นตลาดหุ้นก็ปรับขึ้นได้เช่นกัน แต่ในรอบนี้ ตลาดหุ้นไม่ได้ปรับฐานก่อนดอกเบี้ยขึ้น และหลังจากดอกเบี้ยขึ้นไปแล้วก็คงไม่มีปรับฐานเช่นกัน เนื่องจากในรอบนี้ valuations ของตลาดหุ้นไทยไม่แพงเหมือนในรอบก่อนๆ นอกจากนี้อีกเหตุผลหนึ่งคือในปี 47 นั้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ก็เป็นขาขึ้นเช่นกันและกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ในรอบนี้ดอกเบี้ยไทยและเอเชียขึ้นก่อนสหรัฐฯ มาก จึงน่าจะดึงดูดกระแสทุนให้เข้ามาลงทุนในเอเชียต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ