หุ้น AMATA ปิดเทรดช่วงเช้าราคาพุ่งขึ้น 9.47% มาอยู่ที่ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท มูลค่าซื้อขาย 294.74 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 9.65 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 10.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 9.60 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทสไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA)มองราคาก็ยังต่ำกว่าสินทรัพย์สุทธิ(RNAV)ของบริษัทที่ 12.00 บาทซึ่งเป็นราคาพื้นฐานที่ให้ไว้ ทั้งนี้ ยังไม่ได้รวมผลดีจากโครงการใหม่ที่เวียดนามไว้ในราคาพื้นฐาน ขณะนี้ AMATA ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินโครงการได้จากรัฐบาลกลางของเวียดนามแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการได้รับอนุมัติจากรัฐบาลท้องถิ่นของเวียดนาม
AMATA ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าร่วมงาน“Pulse of Asia"ของ DBSV ที่สิงคโปร์ที่มีขึ้นในวันที่ 8 ก.ค.53 ที่ผ่านมา ตัวแทนของอมตะและเป็น Treasurer ได้ชี้แจงผลการดำเนินงาน 1Q53 ที่แข็งแกร่ง, ยอดขายพื้นที่นิคมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) และแนวโน้มการขายในช่วงที่เหลือของปีนี้, โครงการใหม่ที่เวียดนาม อีกทั้งแผนการที่จะเพิ่มรายได้ค่าเช่าและสาธารณูปโภค (recurring income) ให้มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 2556
ธุรกิจของ AMATA อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ยอดขายพื้นที่นิคมในรอบครึ่งแรกของปี 53 (1H53) เป็น 252 ไร่ (1 ไร่ = 0.4 เอเคอร์) ซึ่งใกล้เคียงกับยอดขายทั้งปี 52 ที่ 254 ไร่แล้ว บริษัทตั้งเป้าการขายปีนี้ไว้ที่ 900 ไร่ และกำลังเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ๆ เช่น กลุ่มแคนาดอยล์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตท่อเหล็กรายใหญ่ในจำนวน 400-500 ไร่ และกลุ่มโฮลลีย์ ซึ่งซื้อพื้นที่นิคมแล้วไปขายต่อให้ลูกค้าจีน ในอดีตปี 50 เคยซื้อไป 600 ไร่ ส่วนในประมาณการยอดขายยองเราปี 53 เป็น 400 ไร่ และปี 54 เป็น 600 ไร่
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q53 แม้ว่าจะมีแนวโน้มอ่อนลงเทียบกับq-o-q หรือ 1Q53 แต่หากเทียบกับ y-o-y ที่เป็นขาดทุนสุทธิแล้ว ก็ถือว่ามีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 53 และ 54 จะมีการฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลพวงจากการฟื้นตัวของยอดขายพื้นที่นิคมที่ทำได้ดีขึ้นมาก