PF ผุด"คอมมูนิตี้มอลล์"แห่งแรกบนที่ดิน 10ไร่ย่านรัชดาฯมูลค่ากว่าพันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 14, 2010 14:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์ "ว่าบริษัทมีแผนจะพัฒนาโครงการในรูปแบบ"คอมมูนิตี้มอลล์"ภายในปลายปีนี้ บนที่ดินถนนรัชดาพิเษกและสุขุมวิท โดยเริ่มจากที่ดิน 10 ไร่ ย่านรัชดาพิเษกก่อน มูลค่าโครงการมากกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ

"ถือเป็นการพัฒนาในรูปแบบใหม่และหลากหลายมากขึ้นนอกเหนือการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โดยจะเป็นการนำที่ดินที่บริษัทมีอยู่มาพัฒนา"นายชายนิด กล่าว

บริษัทมองว่าการพัฒนาโครงการในลักษณะ"คอมมูนิตี้มอลล์"จะเป็นการเพิ่มรายได้จากค่าเช่าในอนาคตที่เข้ามาเสริมรายได้ปัจจุบันของบริษัทที่เน้นการขายโครงการที่อยู่อาศัย แต่รายได้จากค่าเช่าคอมมูนิตี้มอลล์น่าจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญในปี 55

นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนพัฒนาหอพักให้เช่าภายใต้แบรนด์"UNILOFT"มูลค่าโครงการรวม 2.5 พันล้านบาท จำนวน 3 โครงการในครึ่งปีหลัง จากแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 15 โครงการ มูลค่ากว่า 1.7 หมื่นล้านบาท โดยที่เหลือเป็นบ้านเดี่ยว 6 โครงการ คอนโดมีเนียม 6 โครงการ และทั้งหมดจะเป็นการทยอยเปิดในครึ่งปีหลังหมด

โครงการ UNILOFT 3 แห่ง ได้แก่ ย่านใกล้กับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญบริหารธุรกิจ(เอแบค),ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหิดล,และ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งมีแผนจะพัฒนาต่อเนื่องเพิ่มอีก 2-3 แห่งในอนาคต ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ในส่วนของค่าเช่าให้กับบริษัทเพิ่มอีกด้วย โดยบริษัทมีแผนจะขายสิทธิการเช่าให้กับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวได้ช่วงปลายปี 54 ซึ่งจะส่งผลให้เกิดกำไรจำนวนมากเข้ามา และมีเงินทุนที่เพิ่มขึ้นไว้ใช้รองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต

"ตอนนนี้เราต้องพยายามมองหารายได้ที่หลากหลายมากขึ้น จะให้พึ่งรายได้ที่มาจากการพัฒนาโครงการแล้วขายอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องทำอะไรที่แตกต่าง และอีกอย่างจะเป็นส่วนที่ช่วยเราเพิ่มรายได้ในอนาคตอย่างยั่งยืน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าต่อไปปัจจัยอะไรที่จะเข้ามากระทบธุรกิจอสังหาฯ ในอนาคต ดังนั้น การวางแผนที่ดีก็จะเป็นแต้มต่อให้เรา"นายชายนิด กล่าว

นายชายนิด กล่าวต่อว่า ในส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะเป็นไปตามที่ตั้งไว้ที่จะมียอดขาย 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำยอดขายแล้วประมาณกว่า 30% ประกอบกับ ครึ่งปีหลังมีการเปิดโครงการจำนวนมากจะช่วยผลักดันยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนการซื้อที่ดินใหม่ก็ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ภายใต้งบลงทุน 3 พันล้านบาท ในปีนี้ใช้ไปแล้ว 1.5 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นการทยอยซื้อเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 54


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ