ภาวะตลาดหุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงแนวเดียวกับตลาดตปท. เหตุปัจจัยใน-นอกปท.ไม่เอื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 19, 2010 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดภูมิภาคและดาวโจนส์ต่างปรับตัวลง ทั้งนี้คงเป็นผลจากตัวเลขเศรษฐกิจงของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาดูไม่ดี และแนวโน้มในระยะสั้นก็ยังดูไม่ดีด้วย

อีกทั้งปัญหาในจีนก็ยังมีอยู่ โดยจีนถูกกระทบจากยุโรปในส่วนของภาคการส่งออก ดังนั้นจึงเชื่อว่าจีนอาจมีนโยบายด้านภาษีออกมาอีก สัญญาณที่ออกมาจากทางจีน ทำให้คนยังกลัว ซึ่งเมื่อจีนทำท่าจะมีปัญหาคนก็ไม่แน่ใจและชะลอการลงทุนไปเลย ซึ่งมองว่าช่วงนี้จีนอยู่ในช่วงของการปรับเปลี่ยนอยู่

นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างก็ปรับตัวลงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ค่าระวาง เป็นต้น อีกทั้งปัจจัยในประเทศเวลานี้คนเริ่มหันมาดูการเมืองมากขึ้น เพราะจะมีการพิจารณาในเรื่องการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และยังมีเรื่องการเลือกตั้งอีก ดังนั้นเวลานี้คนจะไม่มั่นใจทิศทางตลาดฯ จึงได้ชะลอการลงทุน แม้ว่าช่วงนี้จะมีงบฯแบงก์ประกาศออกมาซึ่งจะช่วยได้บ้าง แต่ในแง่ของภาพรวมตลาดฯยังช่วยไม่ได้ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 822 จุด แนวต้าน 832 จุด

ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง ตามดาวโจนส์ที่ปิดร่วงลงถึง 261 จุด หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของสหรัฐร่วงลงเกินคาด เนื่องจากผู้บริโภคยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจและการจ้างงาน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขายทำกำไรออกมาบ้าง

“วันนี้คงเป็นอะไรที่เห็นการปรับตัวลงบ้าง เพราะดาวโจนส์ลงค่อนข้างแรง 261 จุด แต่ผมก็ไม่คิดว่าแรงอะไรมากนัก คิดว่าคงถูกเทคแต่คงไม่แรงอะไร" นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ส่วนปัจจัยในประเทศขณะนี้ยังไม่มีอะไรใหม่ พร้อมให้แนวรับที่ 820 จุด แนวต้านที่ 830 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(16 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,097.90 จุด ลดลง 261.41 จุด(-2.52%)เอส
แอนด์พี 500 ปิดที่ 1,064.88 จุด ลดลง 31.60 จุด(-2.88%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,179.05 จุด ลดลง 70.03 จุด(-3.11%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 766.82 ล้านบาทเมื่อ 16 ก.ค.53
  • ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 76.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.61 ดอลลาร์
  • คลัง-ไอซีทีชงครม.เศรษฐกิจวันนี้กดดันกทช. เสนอยกเลิก สัญญาสัมปทานระบบ 2 จี และเปิดให้ใบอนุญาตระบบ 3 จี ภายใต้เงื่อนไขระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ15ปี ให้ผลตอบแทนรัฐที่ 12.5% และมีค่าแรกเข้าสำหรับผู้ประกอบการรายเก่าเสนอทางออก ตั้งกก.ร่วม คลัง-ไอซีที ไม่เกิน 7 คนเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 100 วัน “สมเกียรติ"แนะเจรจา 4 ฝ่าย ไอซีที-คลัง- กทช. และคู่สัญญาเดิม
  • "ผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ" ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยปีนี้สภาวิชาชีพบัญชีได้กำหนดให้นิติบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสาธารณะทุกแห่ง เช่นบริษัทมหาชน ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง บริษัทประกันภัย และบริษัทประกันชีวิต ต้องถือปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีไทย (TAS) ในเรื่องผลประโยชน์พนักงาน ตามมาตรการบัญชีฉบับที่ 19 ที่กำหนดให้บันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าจ้างพนักงานในปัจจุบัน และที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต นำมาลงบัญชีเป็นภาระหนี้ โดยให้พนักงานมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของบริษัท
  • "พาณิชย์" กระตุ้นผู้ประกอบการ-เกษตรกรใช้สิทธิประโยชน์อาฟตา หลัง 5 เดือนแรกไทยได้ดุลการค้าภายใต้กรอบเพิ่ม 1.69 แสนล้านบาทแล้ว
  • "สุรพล เศวตเศรนี" ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยอยู่ระหว่างการปรับแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับกรอบเวลาการของบประมาณ โดยปรับเป็นการของบประมาณกลางปี 2554 จำนวน 1,240 ล้านบาท แทนการของบกระตุ้นท่องเที่ยวฉุกเฉินปี 2553 เพราะเหลือเวลาทำตลาดเพียง 2 เดือน หากการเบิกจ่ายล่าช้า การทำงานอาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ประกอบกับช่วงนี้ได้ใช้งบปกติเข้าดำเนินการแทน
  • แบงก์ชาติ ระบุเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจากภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวน ดันเงินร้อนทะลักเข้าไทย "ธาริษา" ระบุหลายประเทศเห็นพ้องไม่ควรให้กลไกตลาดมีเสรีเต็มที่ ซึ่งถือเป็นโจทย์ท้าทายประเทศกำลังพัฒนา เตือนจับตาผลทดสอบสถาบันการเงินในยุโรป อาจจุดปะทุวิกฤติรอบใหม่ พร้อมหาช่องทางลดเงินฝากสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ และลดภาระเอ็นพีแอล เพื่อดึงสเปรดลง แต่ต้องใช้เวลา
  • ธปท.เตรียมหาแนวทางเหมาะสมนำ Basel 3 มาปรับใช้กับแบงก์ไทย คาดได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ ระบุผลกระทบแบงก์ทำธุรกิจยาก มีค่าใช้จ่ายเพิ่มและเงินกองทุนลด แต่ยังมั่นใจยืนได้ 2 หลักจากปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 16% พร้อมนำ IAS19 คาดรับรู้ในงบการเงินไตรมาสแรกของปีหน้า
  • สมาคม บจ.ส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลังขอยกเว้นภาษีเงินปันผลรับจากการไปลงทุนในบริษัทต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทไทยแข่งขันกับต่างชาติได้ หลังศึกษาข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีการยกเว้นภาษีดังกล่าวยืนยันเอื้อให้ บจ.ทุกบริษัทที่มีโอกาสไปลงทุน ไม่ใช่เอื้อเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์)เผยอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างสินเชื่อที่ปล่อยกู้สำหรับการลงทุนระยะยาวกับสินเชื่อที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ปัจจุบันมีสัดส่วน 55:45% ให้เพิ่มเป็น 60:40% ให้ได้ภายในปี 2555 จากยอดสินเชื่อคงค้างทั้งสิ้น 5 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 6 หมื่นล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ