MAJOR พุ่ง 4.67% หลังจะขาย"ซูซูกิ อเวนิว"เข้ากองทุนฯ/โฆษณาโรงหนังฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 19, 2010 10:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น MAJOR ราคาพุ่งขึ้น 4.67% มาอยู่ที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 83.14 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.44 น. โดยเปิดตลาดที่ 11 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 11.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11 บาท

เช้านี้ หนังสือพิมพ์ ระบุว่า นายฉัฐภูมิ ขันติวิริยะ เลขานุการ บมจ. เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ได้เปิดเผยว่า มีแผนจะขยายกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ไลฟ์สไตล์ (MJLF)โดยจะมีการขายโครงการซูซูกิอเวนิว รัชโยธิน เข้าเป็นสินทรัพย์ของกองทุน มีมูลค่าประมาณ 900-1,000 ล้านบาท ซึ่งประเมินว่ากระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการได้เสร็จและรับรู้เข้ามาทันทีในปีนี้

ซูซูกิเอเวนิว รัชโยธิน ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการประชุมผู้ถือหน่วยเพื่อสรุปราคาอยู่ จากนั้นจะดำเนินการส่งเรื่องให้กับทาง ก.ล.ต. ซึ่งคาดว่า กระบวนการทั้งหมดจะดำเนินการได้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ และจะรับรู้เข้ามาภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน

ด้านบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 13.2% yoy มีมูลค่ารวม 47,590 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลังซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการที่ความต้องการใช้โฆษณาฟื้นตัวขึ้นหลังจากอุตสาหกรรมโฆษณาชะลอตัวในปีที่ผ่านมา จากอัตราการใช้เวลาโฆษณาที่หนาแน่นทำให้สถานีโทรทัศน์หลายสถานีมีการทยอยปรับขึ้นค่าโฆษณาในไตรมาส 3/53 และมีแนวโน้มจะขึ้นค่าโฆษณาอีกในไตรมาส 4/53 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรม การเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาเป็นสัญญาณบวกต่อผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มสื่อ

โดยผลประกอบการของ BEC และ MCOT คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการอัตราการใช้เวลาโฆษณาที่สูงขึ้นและการปรับค่าโฆษณา จึงแนะนำ "ซื้อ" MCOT แต่แนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"สำหรับ BEC เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเกินราคาเหมาะสมในปัจจุบัน (แต่มีแนวโน้มปรับเพิ่มราคาเหมาะสม) ส่วน MAJOR ได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของการโฆษณาในโรงภาพยนตร์และสถานการณ์การเมืองที่ผ่อนคลายลง จึงแนะนำ ทยอยสะสม

อุตสาหกรรมโฆษณาในเดือนมิถุนายนเติบโตสูงถึง 18.9% yoy มีมูลค่ารวม 8,522 ล้านบาท จากมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก และสถานการณ์การเมืองที่คลี่คลาย โดยเม็ดเงินโฆษณาทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ สำหรับอุตสาหกรรมโฆษณาในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการบริโภคภายในประเทศ เราคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มบันเทิงเป็นบวก หุ้น MCOT และ MAJOR ยังมีราคาต่ำกว่าพื้นฐาน โดยมีราคาเหมาะสมที่ 28 บาท และ 11.80 บาท ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ