นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) คาดว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/53 กำไรอาจจะปรับลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมาเนื่องจากในไตรมาส 2 บริษัทมีรายได้พิเศษเข้ามาจำนวนมาก แต่สินเชื่อบริษัทยังขยายตัวได้ดีอยู่ ตลาดหุ้นก็ปรับตัวในทิศทางขาขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้ด้านค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ และธุรกิจบลจ.มาทดแทนได้ ส่วนกำไรปี 53 ทั้งปีคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อน
ขณะที่สินเชื่อในปีนี้คาดว่าจะโตมากกว่าเป้าหมายที่ 10-15 % เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะรถขนาดเล็ก ประกอบกับการที่บริษัทมีพันธมิตรกับ ค่าย GM และฟอร์ด และในครึ่งปีหลังค่าย GM จะมีการออกรถใหม่ซึ่งจะสนับสนุนให้ยอดเช่าซื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงน่าจะทำให้สินเชื่อเช่าซื้อทั้งปีโตได้มากกว่าเป้าหมายที่บริษัทประมาณการไว้ โดยปัจจุบันมีสินเชื่อเช่าซื้อ 75% ของพอร์ต
ทั้งนี้ คาดว่าสถานการณ์การขายรถยนต์ในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวส่งผลต่อการตัดสินใจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะขายรถได้ 7 แสนคันโดยในครึ่งแรกขายไปแล้ว 3.5 แสนคัน
สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นนั้นไม่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีการจัดการอยู่แล้ว NPLทั้งปีก็คาดว่าจะอยู่ที่ 2% ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบครึ่งปีแรก ขณะที่ NIM อยู่ที่ 4.6 % ซึ่งเท่ากับปีก่อน
"เราคงยังไม่ปรับเป้าสินเชื่อในตอนนี้ แต่ตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่สินเชื่อจะทะลุ 15% และอาจจะไปถึง 15-17% ได้ เพราะยอดขายที่ผ่านมามีสัญญาณที่เพิ่มขึ้น ส่วนดอกเบี้ยเช่าซื้อคงไม่ได้ปรับขึ้นมาก คงเป็นไปตามภาวะตลาดมากกว่า ถ้าธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% สินเขื่อเช่าซื้อก็คงขึ้น แต่คงเป็นในอัตราเดียวกัน และถ้าขึ้นก็ต้องดูตามแบงก์ใหญ่ มองว่าดอกเบี้ยปีนี้ค่อย ๆ ขยับขึ้นจึงไม่น่ากังวล แต่ในปีหน้าธปท.มีโอกาส ปรับขึ้น2.75% - 3%"นางอรนุช กล่าว
สำหรับปัจจัยในครึ่งปีหลัง นางอรนุช กล่าวว่า ในตอนนี้เศรษฐกิจมีการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ปัจจุบันได้มีการส่งออกไปยังแถบเอเชียมากขึ้นไม่ได้พึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเหมือนแต่ก่อน ส่วนปัจจัยดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นนั้นไม่กระทบมาก วิกฤติยุโรปที่เกิดขึ้นก็ไม่น่ากระทบมากอย่างที่คิด ขณะที่ประเด็นการเมืองยังคงเป็นปัจจัยที่ยังมีความกังวลและติดตาม