นายเจอร์ลาร์ด เมคเกริก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน(ROBINS) คาดว่า ยอดขายในไตรมาส 2/53 จะเติบโต 2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตจากสาขาเดิมและสาขาใหม่ แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง ส่วนในไตรมาส 3/53 คาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่อง และสูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสินค้ากลุ่มแฟชั่นเป็นสินค้าหลักที่ช่วยผลักดัน
และยังเชื่อว่าทั้งปี ยอดขายของบริษัทจะโตกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 12% โดยขณะนี้ยอดขายในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค.เติบโต 17% และมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดขายจะดีกว่าครึ่งปีแรก อีกทั้งบริษัทยังมีการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง
"ไตรมาส 3 เราคิดว่ายอดขายจะเติบโตจากปีที่แล้วเยอะมาก ครึ่งปีหลังยอดขายจะโตดีกว่าครึ่งปีแรก และคาดหวังว่า ยอดขายทั้งปีจะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้" นายเจอร์ลาร์ด กล่าว
นายเจอร์ลาร์ด กล่าวว่าในไตรมาส 3 ปีนี้ กลุ่มแฟชั่นจะเป็นตัวขับเคลื่อนของยอดขายเพิ่มขึ้น โดยในปลายเดือนนี้ (30 ก.ค.- 8 ส.ค.) โรบินสันจะจัดงาน "Robinson Fashion Week Fall 2010 " เจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ ซึ่งถือว่าโรบินสันจัดงานนี้เป็นครั้งแรก โดยทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท เพื่อสร้างกระแสไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากโรบินสันเล็งเห็นช่องทางในธุรกิจแฟชั่น รีเทล ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักของธุรกิจโดยรวมของโรบินสัน ทั้งนี้คาดว่าจะจัดงานลักษณะเดียวกันในสาขาต่างจังหวัดในภาคเหนือ และอีสาน
นอกจากนี้ในเดือน ส.ค. โรบินสันเตรียมจัดงาน Gift for Mom จึงคาดว่าในไตรมาส 3/53 จะมียอดขายโตเป็นเลข 2 หลัก โดยจุดขายนอกเหนือจากราคาพิเศษแล้ว ยังมีแบรนด์กว่า 30 แบรนด์เข้าร่วม
"ในไตรมาสที่ 3-4 นี้โรบินสันเตรียมจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์ทางการเมืองนิ่ง เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าที่ยังระมัดระวังการจับจ่าย"นายเจอร์ลาร์ด กล่าว
ทั้งนี้ โรบินสันมั่นใจว่า ยอดขายจากงาน "Robinson Fashion Week Fall 2010 " ในช่วง 10 วัน ที่ศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ จะสร้างยอดขายในงานมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากลุ่มแฟชั่น (รวมกลุ่มเครื่องสำอาง) มีประมาณ 70-75% ปรับสูงขึ้นจาก 5 ปีก่อนที่มีสัดส่วน 60%