บมจ.แสนสิริ (SIRI) ตั้งเป้ายอดขายในไตรมาส 3/53 ไว้ที่ 5,600 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในครึ่งหลังของปี 53 ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยของลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้ายอดรับรู้รายได้ปีนี้ เป็น 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากยอดขายดีขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างปรับประมาณการยอดขายจากเดิมตั้งไว้ 2.2 หมื่นล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นและสถานการณ์การเมืองนิ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้น แต่คาดว่ากระทบกำลังซื้อไม่มาก เพราะความต้องการยังคงมีสูงในช่วงครึ่งหลัง หากเหตุการณ์การเมืองไม่มีปัญหา กำลังซื้อจะกลับมา โดย 2 สัปดาห์ของเดือน ก.ค. ทำยอดขายได้ 1.2 พันล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และคาดว่ายอดขายจะเติบโตต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี โดยครึ่งปีแรกยอดขาย 1 หมื่นล้านบาทแล้ว
"ปัจจัยที่กระทบกับการซื้อบ้านมี 2 อย่างคือกำลังใจกับกำลังซื้อ โดยกำลังซื้อไม่ได้ลดมากถึงแม้ดอกเบี้ยจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ผมว่าไม่เกิน 0.75% ซึ่งค่อยๆขึ้น และมองจีดีพียังขยายตัว และถ้าบ้านเมืองสงบ ก็เชื่อว่าคนก็จะมาซื้อบ้านปกติ"นายเศรษฐา กล่าว
กรรมการผู้จัดการ SIRI คาดว่าจะพิจารณาปรับขึ้นราคาบ้านประมาณ 5-10% ในเดือน ส.ค.นี้ เนื่องจากความต้องการซื้อสูงขึ้น และราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเปิด 21 โครงการ มูลค่ารวม 3.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 10 โครงการ มีมูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท และโครงการทาวน์เฮ้าส์ 3 โครงการ รวมมูลค่า 2.7 พันล่านบาท โดยทั้งปี 53 มีแผนเปิด 26 โครงการ มูลค่ารวม 3.8 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการบีโอไอ จำนวน 900 ยูนิต อยู่แนวเส้นทางแอร์พอร์ตลิงค์
ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ยังคงเป็นไปตามแผน ได้แก่ ในอังกฤษจะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม ในปลายปีนี้
นายเศรษฐา กล่าวว่า ในปี 53 มองตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะเติบโต 10% ซึ่งผู้ประกอบการรายใหญ่จะมีส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น เพราะผู้ให้กู้เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งที่ดิน แนวทางรถไฟฟ้าได้รับสนใจมาก