ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 830.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด(+0.35%)มูลค่าการซื้อขาย 30,138.37 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 834.02 จุด ส่วนดัชนี จุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 826.09 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 179 หลักทรัพย์ ลดลง 182 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 131 หลักทรัพย์
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหว ไซต์เวย์ ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ ซึ่งภาพโดยรวมในภูมิภาคจะเห็นได้ว่าแรงซื้อได้หดหายไป เนื่อง จากมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรํฐฯ และของโลก และเป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดบ้านเราไปต่อไม่ได้ด้วย
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ถึงผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ และบริษัทจดทะเบียนที่คาด ว่าจะออกมาดี อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ถึงตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่จะออกมาดีด้วย ทำให้ปัจจัยเหล่านี้ค้ำตลาดฯไว้ได้อยู่
สำหรับการพิจารณาการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ประเด็นนี้มองว่าไม่น่าจะมีผลต่อตลาดฯ และอาจมี การยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯได้ในบางจังหวัด แต่ก็อาจมีการเรียกกลับมาใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯในบางจังหวัดได้เหมือนกัน อย่าง เช่น โคราชที่มีความเคลื่อนไหวในช่วงผ่านมา
ด้านน.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อน ข้างผันผวน โดย Outperform ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบมากกว่าเรา เนื่องจากค่อนข้างผิดหวังกับตัวเลข เศรษฐกิจในสหรัฐฯที่ออกมาไม่ดี และยังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯด้วย
โดยวันนี้ตลาดบ้านเราส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวมากกว่า ทำให้ตลาดค่อนข้างผันผวน แต่ตลาดฯยังมีดีจากสัญญาณทางเทคนิคได้กลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่สามารถขึ้นมายืนเหนือระดับ 826-827 ได้สำเร็จ จึง ส่งผลให้ตลาดบ้านเราดูดีกว่าตลาดอื่น
ส่วนปัจจัยในประเทศ นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่จะมีการพิจารณาในวันพรุ่งนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(20 ก.ค.)นายวรุตม์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายกับวันนี้ เพราะยังมี เหตุการณ์หลายอย่างที่ต้องจับตาดู อาทิ เรื่องของ Stress Test ของธนาคารยุโรป ที่จะประกาศในวันศุกร์ และการลงนาม ของ"โอบามา"ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเรื่องเกี่ยวกับความเข้มงวดด้านการเงิน
ส่วนน.ส.ธีรดา มองว่า ตลาดฯยังคงผันผวน พร้อมแนะให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และการประกาศผล ประกอบการของกลุ่มสถาบันการเงิน รวมถึงรอดู"โอบามา"ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะลงนามเรื่องกฎหมายปฏิรูปทางด้านการเงิน
นักวิเคราะห์ฯ ได้ให้กรอบการแกว่งของดัชนี SET ไว้ที่แนวรับ 825-820 จุด และแนวต้าน 832-840 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,926.71 ล้านบาท ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 2,815.87 ล้านบาท ปิดที่ 2.04 บาท ลดลง 0.06 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,503.92 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
BJC มูลค่าการซื้อขาย 913.51 ล้านบาท ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 883.11 ล้านบาท ปิดที่ 0.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท