นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน คล้ายกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ผันผวนทั้งบวก-ลบ เนื่องจากตลาดฯยังให้ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกอยู่ ภายหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดูไม่ดีเท่าไร
แต่สำหรับความเคลื่อนไหวของตลาดบ้านเราอาจจะไม่ไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศเหมือนในช่วงที่ผ่านมา เพราะบ้านเราเวลานี้จะอิงปัจจัยภายในประเทศมากกว่า โดยมีการหันมาเล่นหุ้นขนาดเล็กกันมากขึ้นจากปัจจัยที่เข้ามา อย่างหุ้นในกลุ่ม ICT และกลุ่มอสังหาฯ เป็นต้น
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ไม่ค่อยขยับตัวเท่าไร เพราะทั้งสองกลุ่มนี้เป็นหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับภาวะปัจจัยภายนอกประเทศมากกว่า ทำให้ช่วงนี้จึงเงียบ ๆ ไป ซึ่งแม้ว่ากลุ่มแบงก์จะมีการประกาศงบฯออกมา แต่ดูเหมือนหุ้นแบงก์ก็ไม่ค่อยตอบรับมากนัก
ดังนั้น หากดัชนีฯยังไม่หลุดแนวรับ 820-825 จุด ทิศทางของตลาดฯคงเป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไรกันอยู่ ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 833-834 จุด พร้อมให้ลุ้นดูการประชุมพิจารณายกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯในวันนี้ด้วย หากยกเลิกได้ก็จะดีขึ้นในแง่ของภาวะการลงทุน
ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ามีโอกาสขยับขึ้นได้ แต่คงไปได้ไม่ไกล โดยยังเป็นการเล่นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นส่วนใหญ่ โดยปัจจัยในประเทศให้รอติดตามการประชุมครม.ในวันนี้ว่าจะมีการพิจารณายกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางพื้นที่หรือไม่ ซึ่งถ้ามีการยกเลิกก็จะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน และให้ติดตามการพิจารณาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ซึ่งอาจจะเป็นตัวสร้างสีสันให้กับหุ้นบางตัว
ส่วนปัจจัยต่างประเทศนักลงทุนยังคงวิตกกับเศรษฐกิจในสหรัฐฯที่ออกมาไม่ดี หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)/เวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านของสหรัฐดิ่งลงด้วย แต่ดาวโจนส์ก็ได้รับปัจจัยบวกจากการประกาศตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทำให้ดาวโจนส์กลับมาตีขึ้นในช่วงท้ายและกลับมาปิดบวก 56 จุด
พร้อมมองแนวรับที่ 824-828 จุด แนวต้านที่ 835-840 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้(19 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,154.43 จุด เพิ่มขึ้น 56.53 จุด(+0.56%)เอส
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 886.79 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 76.54 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.53 ดอลลาร์
- ครม.เศรษฐกิจอนุมัติล้มสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2 จีของเอกชน 3 ราย เป็นใบอนุญาต “อภิสิทธิ์"สั่งวางกรอบเวลาศึกษาแนวทางและรายละเอียดเสร็จใน 30 วัน พร้อมส่งกฤษฎีกาดูข้อกฎหมาย หวั่นไร้อำนาจดำเนินการ ด้านไอซีที ชงครม. วันนี้ตั้งคณะกรรมการ 7 คนศึกษารายละเอียด แนวทางสัมปทาน
- เครือข่ายปชช.ภาคตะวันออก กังขาบอร์ดสิ่งแวดล้อมยื้อประกาศกิจการรุนแรง เตรียมยื่นหนังสือจี้ นายกฯ-สุวิทย์ ชี้แจงใน 1 สัปดาห์ หากไม่ชัดเจนพร้อมเคลื่อนไหวทันที “ชัยวุฒิ" เล็งประกาศกิจการรุนแรงเฉพาะด้านอุตสาหกรรม -พลังงานเอง พร้อมเตรียมหาแผนสำรอง หลังบอร์ดสิ่งแวดล้อมไม่ประกาศประเภทกิจการรุนแรงใน 2 เดือน ด้าน สผ.ยันทบทวนร่าง 18 โครงการไม่กระทบเอกชน
- "แบงก์ชาติ"เผยต่างชาติเริ่มทยอยกลับเข้าลงทุน ระบุต้น มิ.ย.ถึงปัจจุบันมียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยแล้ว 3 พันล้านบาท จากช่วงก่อนหน้าที่เทขายกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเล็กน้อย ใกล้เคียงภูมิภาคหลังนักลงทุนมองเศรษฐกิจยังเอเชียสดใส ดอกเบี้ยขาขึ้น
- คลังโชว์จัดเก็บรายได้รัฐ 9 เดือนแรก ทะลุเป้ากว่า 2.46 แสนล้านบาท ชี้อานิสงส์จากเศรษฐกิจไทยผงกหัวต่อเนื่องประกอบกับเงินยึดทรัพย์ "แม้ว" กว่า 4.9 หมื่นล้านบาท ดันรายได้รัฐพุ่งแตะ 1.24 ล้านล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปีเกินเป้าทะลุ 2.8 แสนล้านบาทชัวร์
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยสิงคโปร์ขอร่วมเปิดซื้อขายกระดานอาเซียนพร้อมตลาดหุ้นไทย-มาเลเซีย ส่งผลทำให้ต้องเลื่อนเปิดซื้อขายเป็นไตรมาส 4/54 จากเดิมไตรมาส 2/54 เหตุต้องทำระบบเพิ่ม "นงราม" เผย มี บล. 18 แห่งสนใจเดินทางพบ บล.มาเลเซีย 27 ก.ค.นี้
- รายงานข่าวจากกรมบังคับคดี เผยผลการดำเนินงานของสำนักฟื้นฟูกิจการลูกหนี้ พบว่าแนวโน้มคดีฟื้นฟูกิจการเริ่มลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นตามลำดับ และสถาบันการเงินมีการติดตามลูกหนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสีย
- ดีเอสไอไม่ฟ้องคดีทีพีไอโพลีน พบข้อพิรุธพนักงานสอบสวนชุดเดิมไม่ทำคดี 258ล.พุ่งปมเฉพาะคดีทำผิดพรบ.พรรคการเมืองใช้เพียงคำบอกเล่ากล่าวหาเพื่อให้มีผลต่อรูปคดียุบพรรค เตรียมส่งสำนวนหลักฐานให้ศาลรธน.ประกอบการพิจารณา