หุ้น AJ ราคาพุ่งขึ้น 6.62% มาอยู่ที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 46.43 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.10 น. โดยเปิดตลาดที่ 7.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 7.45 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 7.15 บาท
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ แนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอ.เจ.พลาสท์ (AJ) ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 10 บาท/หุ้น คาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 เท่ากับ 361 ล้านบาท โตขึ้น 26% YoY
ไตรมาส 1/53 มีกำไรสุทธิไปแล้ว 78 ล้านบาท คาดว่าไตรมาส 2/53 กำไรอาจจะอ่อนตัวลงล็กน้อย เนื่องจากมีการบันทึกการด้อยค่าสินค้าคงเหลือจากการ Clearance สินค้าคงเหลือในโกดังบางส่วนขายตัดขาดทุน ทั้งนี้เพื่อจัดวางพื้นที่ใหม่เตรียมพร้อมรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตด้วยการยกเครื่องจักรใหม่เข้ามาตั้งเปิดไลน์การผลิตเพิ่ม ด้วยภาวะอุตสาหกรรมดีเช่นนี้ คาดงวด 2H53 จะมีกำไรสดใสและสูงกว่าช่วง 1H53 คือประมาณไตรมาสละ 100 ล้านบาท
คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตปีละ 20% ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ภาวะอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและของขบเคี้ยวในโลกเติบโตได้ปีละ 8% แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารของไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น มีความพร้อมมากกว่าประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่งในย่านเอเชีย จึงเชื่อว่าการเติบโตในแต่ละปีของอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปและอาหารเพื่อการส่งออกของไทยจะโตได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 10-15% ดังนั้น การที่ AJ ผลิตสินค้าสนองตอบต่อความต้องการอุตสาหกรรมอาหารมากถึง 80% รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคด้านอื่นก็อยู่ในช่วงขาขึ้นตามไปด้วย ฐานรายได้-กำไรที่ไม่สูงมากจะเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าอย่างมาก
การขยายกำลังการผลิตเป็นคีย์สำคัญสร้างการเติบโต เนื่องจากการผลิตไม่ได้เป็น Capital Intensive สูงมากนัก การขยายเครื่องจักรแต่ละไลน์ใช้เงินประมาณ 800 ล้านบาท สามารถขยาย BOPP, BOPET ได้ถึง 30,000 ตันต่อปี และ BOPA กับ BP Metallized ได้ 5,000 ตันต่อปี แต่ความน่าเชื่อถือที่ลูกค้ามีต่อบริษัทฯ สำคัญกว่า
ปัจจุบัน AJ เตรียมขยายกำลังการผลิตเพิ่ม หลังจาก Clearance สินค้าคงเหลือออก เพื่อจัดเตรียมพื้นที่โรงงานสู่การขยายตัวอีกราว 20% ต่อปี ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า คาดว่าแผนของ AJ จะรองรับการเติบโตของกำไรที่ดีในช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรมได้ดี