นายชนินทร์เดช วานิชวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ(CYBER) คาดว่า ธุรกิจในส่วนสถาบันเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็กภายใต้ชื่อ"Geniusplanet"จะสร้างรายได้ให้ CYBER ในสัดส่วนประมาณ 35-45% ของรายได้ทั้งหมดในปีนี้ และในอนาคตจะขยายตัวจนกระทั่งเป็นหนึ่งในรายได้หลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนประมาณ 50-60%
Geniusplanet เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นธุรกิจด้านการศึกษา ซึ่งผู้ปกครองให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่แล้ว และยังเป็นการศึกษาที่มีรูปแบบการเรียนแนวใหม่ที่มีความโดดเด่น เพราะมีเทคนิคการสอนแบบใหม่ ยากที่จะลอกเลียนแบบ ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์พกพารายแรกของโลก พร้อมหลักสูตรซึ่งออกแบบให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ และลดความเบื่อหน่ายในการทำแบบฝึกหัด จนสามารถท่องศัพท์ได้ถึง 2,000 คำ และเข้าใจหลักไวยากรณ์อังกฤษระดับ ป. 1-6 โดยมีแบบฝึกหัดกว่า 10,000 ข้อ ทำให้เด็กๆ เรียนรู้หลักสูตรทั้ง 6 ปี ได้ ภายในเวลาเพียง 16 เดือน ทำให้มีผู้สนใจ และมีผลตอบรับค่อนข้างดี
นายชนินทร์เดช กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการโดยรวมในปี 53 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์ ซึ่งขยายตัวดีโดย CYBER ได้รับโปรเจ็คท์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาเกมส์เพื่อจำหน่ายสำหรับ Console, PC และ Facebook
ส่วนธุรกิจ Geniusplanet มีความคืบหน้าไปมากในด้านการขยายธุรกิจ ทั้งส่วนที่ดำเนินการโดย CYBER เอง และส่วนที่ขายเป็นแฟรนไชส์ โดยในส่วนที่ดำเนินการโดย CYBER วางเป้าหมายภายในระยะ 12 เดือนจากนี้เตรียมจะเปิดให้ได้ถึงประมาณ 30 สาขาก่อน โดยจะเปิดตามจังหวัดใหญ่ๆ ของแต่ละภาคทั่วประเทศ และในส่วนการขายแบบ แฟรนไชส์ ปัจจุบันมีผู้จองเข้ามาแล้ว ภาคตะวันออก 30 สาขา และกรุงเทพฯ 15 สาขา
วิชาที่สอนในปัจจุบัน คือ การสอนวิชาภาษาอังกฤษ ในเรื่องของหลักไวยากรณ์ และคำศัพท์ สำหรับเด็ก ประถม 1-6 และเร็วๆ นี้ จะมีวิชาที่สองออกมา คือ Brain Training ซึ่งเป็นวิชาที่จะช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆ ทั้ง 4 ด้าน และในอนาคตจะพัฒนาหลักสูตรคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ซึ่งทุกวิชาจะสอนอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา และอยู่ภายใต้ Concept หลักของ Geniusplanet คือ ความรู้ คู่ความสนุก
ก่อนหน้านี้ Geniusplanet เปิดตัวไปแล้ว 3 สาขา คือ ที่เซ็นทรัล ชิดลม (ชั้น 8 ชิดลม ทาวเวอร์), เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า แผนงานในอนาคตมีเป้าหมายที่จะเปิดให้ได้ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ และจะขยายเข้าไปทุกจังหวัด และถ้าเป็นจังหวัดใหญ่ ก็อาจจะเปิดมากกว่า 1 สาขา เพื่อความสะดวกของลูกค้า โดยดูจากจำนวนนักเรียนในแต่ละพื้นที่เป็นหลัก
"มีกระแสตอบรับที่ดีมาก เด็กที่เข้ามาเรียน Turn over เท่ากับศูนย์ คือ ไม่มีเด็กออกเลยหลังจากที่สมัครเรียนกับเรา และภายในไตรมาส 3/53 เราเตรียมจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง ได้แก่ บางนา, รามคำแหง, ประเวศ, วัฒนา และหลักสี่"นายชนินทร์เดช กล่าว