บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวในรายงานพิเศษว่า สภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอและความไม่สงบทางการเมืองของประเทศไทย น่าจะส่งผลกระทบในวงจำกัดต่ออุตสาหกรรมประกันชีวิต โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง เนื่องจากผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งสิทธิประโยชน์ทางภาษี และกิจกรรมทางการตลาดโดยการขายประกันผ่านเครือข่ายธนาคารที่เป็นไปในเชิงรุกมากขึ้น
“เบี้ยประกันชีวิตมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะอ่อนแอมาโดยตลอด นอกจากนั้นผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองก็ดูเหมือนจะอยู่ในวงที่จำกัด โดยเท่าที่เห็นจะเป็นการหยุดชะงักของธุรกิจบ้างเล็กน้อยในช่วงเดือนพฤษภาคมที่เหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น" นางนฤมล ชาญชนะวิวัฒน์ ผู้อำนวยการ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการโดยรวมของอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นมาก จากช่วงวิกฤตเศษฐกิจของเอเชียในปี 40 โดยผลกำไรจากการลงทุนเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันโครงสร้างสินทรัพย์ของบริษัทประกันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปโดยเน้นการลงทุนมากขึ้นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จากการที่มีกฎระเบียบในเรื่องการลงทุนที่เข้มงวดมากขึ้น ประกอบกับการพัฒนาของตลาดหุ้นกู้ในประเทศ
อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันชีวิตไทยก็ยังคงเผชิญความท้าทายเช่นเดียวกับบริษัทประกันชีวิตอื่นๆในภูมิภาค ในเรื่องของส่วนต่างระหว่างระยะเวลาครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สิน เนื่องจากปริมาณหุ้นกู้ระยะยาวที่มีไม่เพียงพอในตลาด
แม้ว่าการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายต่างๆน่าจะนำไปสู่การพัฒนาของอุตสาหกรรมประกันภัย แต่ขณะเดียวกันก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับบริษัทที่อ่อนแอหรือเกิดการควบรวมมากขึ้นในระยะยาว ความท้าทายของอุตสาหกรรมยังคงเป็นในเรื่องที่เกี่ยวกับส่วนต่างระหว่างระยะเวลาครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สิน ความไม่เพียงพอของบุคคลากรที่มีความชำนาญ การกำกับกิจการและการบริหารความเสี่ยงที่ยังคงอ่อนแอ