หุ้น PTTAR ราคาร่วงลง 5.71% มาอยู่ที่ 23.10 บาท ลดลง 1.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,087.77 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.01 น. โดยเปิดตลาดที่ 24.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 23.00 บาท
สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ระยะสั้นแนะนำ “หลีกเลี่ยงลงทุน"หุ้น บมจ.ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR)เนื่องจากคาดการณ์ PTTAR จะประกาศผลขาดทุนสุทธิใน Q2/53 ซึ่งแม้จะคาดการณ์ผลประกอบการที่อ่อนตัวลงอยู่แล้วก่อนหน้า แต่การลดลงมาอยู่ในระดับขาดทุนถือว่ามากกว่าคาดการณ์ และทำให้ต้องมีการปรับประมาณการกำไรปี 2553-2554 ลดลง 42%-45%
ปัจจัยบวกของหุ้นในระยะกลาง-ยาวยังคงอยู่ในประเด็นการควบรวมกิจการซึ่งคาดยังคงเดินหน้า แต่ระยะสั้นผลประกอบการที่ Surprise เชิงลบและการปรับลดประมาณการอย่างมีนัยของ Consensus คาดยังคงกดดันให้มีแรงขายทำกำไร ทั้งนี้ ปรับมูลค่าเหมาะสมลดลงเป็น 25 บาท
ทั้งนี้ คาดผลประกอบการ Q2/53 จะขาดทุนสุทธิราว 397 ล้านบาท โดยเป็นผลจาก P2F ของธุรกิจอโรเมติกส์ลดต่ำลงมาเหลือ 4.43 - 5.46 เหรียญ/บาร์เรล เทียบกับ 8.0 — 9.2 เหรียญ/บาร์เรล ใน Q1/53 เมื่อประกอบโรงอโรเมติกส์ AR2 มีการหยุดซ่อมบำรุงในเดือนมิ.ย. 53 ทั้งเดือนส่งผลให้คาดมีผลขาดทุนสุทธิในธุรกิจอโรเมติกส์ ทั้งนี้ แม้ธุรกิจกลั่นจะมีผลประกอบการดีขึ้นจาก Q1/53 จากอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 105% และ Market GRM เพิ่มขึ้นเป็น 4.16 เหรียญ/บาร์เรล (จาก 3.41 เหรียญ/บาร์เรล)แต่ Market GIM รวมอยู่ที่ 4.80 เหรียญ/บาร์เรล เพียงใกล้เคียงต้นทุน OPEX + ต้นทุนทางการเงิน+ค่าเสื่อมราคาซึ่งรวมอยู่ที่ 4.40 เหรียญ/บาร์เรล เมื่อหักขาดทุนสต็อก(realized) 0.5 เหรียญ/บาร์เรล และบันทึกขาดทุน LCM (unrealized)อีก 1.2 เหรียญ/บาร์เรล คาดจะทำให้ภาพรวมมีผลขาดทุนสุทธิ 397 ล้านบาท Q2/53 คาดจะมีการปรับวิธีคำนวณ LCM มาอิงการประเมินจากราคาน้ำมันดิบสิ้นงวดเหมือนโรงกลั่นอื่นโดยอยู่ระหว่างการปรึกษากับผู้สอบบัญชี
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการปรับวิธีคำนวณ LCM โดยอิงตามวิธีเดิมซึ่งมีการแปลงน้ำมันดิบไปเป็นน้ำมันสำเร็จรูปด้วย การบันทึกขาดทุน LCM จะเพิ่มเป็น 2.4 เหรียญ/บาร์เรล และผลขาดทุนสุทธิ Q2/53 เพิ่มเป็น 1,014 ล้านบาท