ออสซิริส เชื่อมินิโกลด์ฯ กระตุ้นตลาดคึกคัก แนะรายย่อยเริ่มเทรดทีละน้อย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 20, 2010 15:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ลักษณสิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส คาดว่า มินิโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาททอง/สัญญา ที่จะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันแรก 2 ส.ค.นี้ จะทำให้มูลค่าการซื้อขายของ TFEX เติบโตขึ้นประมาณ 20% ของตลาดรวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท/วัน หรือเพิ่มขึ้น 1,000-2,000 สัญญา/วันในช่วง 6 เดือนแรก

และคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะเห็นการเทรดมินิโกลด์ฟิวเจอร์สเพิ่มเป็น 3,000-5,000 สัญญา/วัน และโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 50 บาททอง/สัญญา เฉลี่ยเพิ่มเป็น 10,000 สัญญา/วัน จากปัจจุบันซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000-3,500 สัญญา/วัน เนื่องจากนักลงทุนสนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น

นายอภิชาติ กล่าวว่า บริษัทมีแผนรองรับการเทรดมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยได้มีการเตรียมทีมมาร์เก็ตติ้ง 16 คนและระบบไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว เพราะเชื่อว่านักลงทุนรายย่อยจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น แต่รายใหญ่น่าจะยังคงยึดติดกับโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 50 บาททอง/สัญญามากกว่า โดยส่วนใหญ่จะลงทุนทีละ 10-20 สัญญา แต่คงจะไม่กระโดดมาลงทุนในมินิโกลด์ฟิวเจอร์สมากนัก โดยมินิโกลด์ฟิวเจอร์กำหนดเงินลงทุนเบื้องต้นที่ 15,000 บาท

ปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนลูกค้าในส่วนของโกลด์ฟิวเจอร์ส 700 บัญชี เพิ่มจาก 500 บัญชี เมื่อสิ้นปี 52 โดยปีนี้ตั้งเป้ามีลูกค้าเพิ่มเป็น 1,000 บัญชีหลังเปิดมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยคาดว่าหลังเทรด 2 ส.ค.ถึงสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่ม 150-200 บัญชี โดยลูกค้าสามารถเปิดบัญชีดทรดทั้ง 2 สินค้าได้ และยังคาดว่าจำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้น 300 บัญชี/ปีในระยะ 1 ปีข้างหน้า

และในวันที่ 7 ส.ค.บริษัทจะเปิดสำนักงานตัวแทนที่ หาดใหญ่ เป็นแห่งที่ 4 และครึ่งหลังของปีนี้มีแผนจะเปิดอีก 6 แห่ง เพื่อให้สิ้นปีมีครบ 10 แห่ง โดยกำลังมองที่ เพชรบุรี นครสวรรค์ ชลบุรี และ นครราชสีมา

ขณะนี้บริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์ส 12-13% และถ้ามีมินิโกลด์ฟิวเจอร์สแล้วจะพยายามรักษามาร์เก็ตแชร์ระดับ 12-13% ไว้ให้ได้ โดยครึ่งปีแรกก็ได้ตามเป้าและครองอันดับ 1 มาตลอด ซึ่งฐานลูกค้าเป็นรายย่อย 70% รายใหญ่-กลาง 30%

นายอภิชาติ ให้คำแนะนำการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สว่า สำหรับนักลงทุนรายย่อยควรต้องศึกษาปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทคนิคให้ดีก่อน เพราะโกลด์ฟิวเจอร์สเป็นระบบมาร์จินต้องวางเงินค้ำประกัน ไม่เหมือนกับทองแท่ง

"เป็นห่วงรายย่อยเพราะเสี่ยงค่อนข้างสูง เงินลงทุนไม่เกิน 15,000 บาท ซื้อทองได้ตั้ง 10 บาททอง ใช้เงินลงทุนน้อยก็จริง แต่เวลาเกิดกำไรขาดทุนจะเยอะ อยากให้รายย่อยระวัง อย่าเพิ่งลงทุนเยอะ ให้ลองตลาดแค่ 1 สัญญาก่อน หรือไม่เกิน 2 สัญญา รายย่อยต้องระวังเพราะเชื่อราคาทองจะแกว่งรุนแรง"นายอภิชาติ กล่าว

นายอภิชาติกล่าวว่า มินิโกลด์ฟิวเจอร์สอาจจะดึงลูกค้าที่เคยซื้อขายทองคำแท่งมาบางส่วน แต่สินค้าที่จะมาดึงลูกค้าจากร้านทองโดยตรงคือ ETF โกลด์ฟิวเจอร์สที่จะเกิดในอนาคตจะกระทบร้านทองมากกว่า ซึ่งคาดว่า ETF โกลด์ฟิวเจอร์สจะเกิดขึ้นในปีหน้า

สำหรับทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นยังคงทรงๆ ซึมๆ หลังจากที่ขึ้นไปทำ New High ที่ 1,260 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยในปัจจุบันลงมาที่ระดับ 1180 ดอลลาร์ต้นๆ/ออนซ์ คาดว่าจะทรงตัวในระดับนี้อีกระยะช่วง 4-5 วันนี้ แต่ก็ต้องจับตาข่าวที่จะเข้ามากระทบ โดยปัจจัยสำคัญคือ ค่าเงินยูโร และดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาข่าวค่าเงินยุโรปจะกระทบกับทองคำค่อนข้างมาก

ในระยะยาวยังมองว่าราคาทองเป็นขาขึ้นปลายปีนี้น่าจะเห็น 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนบาททองจะเป็นเท่าไรนั้น ต้องขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลลาร์ด้วย เพราะขณะนี้ปัจจัยหลักของราคาทองคืออัตราแลกเปลี่ยน เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นเรื่องดีมานด์-ซัพพลาย

ส่วนดอกเบี้ยขาขึ้นในปัจจุบันมีผลกระทบกับราคาทองคำบ้าง เพราะถ้าดอกเบี้ยขึ้นแรงคนจะหันไปลงทุนในเงินฝาก เพราะทองไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าดอกเบี้ยขึ้นแค่ 1-2% ก็ไม่น่าจะกระทบ ต้องปรับเพิ่ม 10% ขึ้นไป ซึ่งเป็นไปได้ยาก และยังขึ้นกับเศรษฐกิจดวย แค่ถ้าดอกเบี้ยขึ้นแรงแต่เศรษฐกิจไม่ดีคนก็จะถือทองไว้มากกว่า

จากสถิติ 9ปีที่ผ่านมาผลตอบแทนการลงทุนในทองคำอยู่ที่ 16% ในสกุลดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นสกุลบาทผลตอบแทนก็ยังน่าจะมากกว่า 10% โดยทิศทาง 1-2 ปีข้างหน้าก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่

"เชื่อทองจะผันผวนเยอะ ไม่ขึ้นแรงก็ลงแรงเพราะปัจจัยอัตราแลกเปลี่ยน ยูเอสดอลลาร์และยูโรถ้าผันผวนเยอะก็จะกระทบทองชัดเจน อีกทั้งกองทุนทองคำ รายย่อย และประชาชนทั่วไปก็หันมาลงทุนในทองแท่งมากขึ้น การที่นักลงทุนมาลงทุนในสินทรัพย์ทองมากขึ้นความผันผวนก็มากขึ้น ตอนนี้ถ้าราคาทองเปลี่ยน 400-500 บาท/วัน ไม่น่าแปลกแล้ว แต่ในอดีตแปลก"นายอภิชาติ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ