ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 75.53 จุด หลังนลท.ซื้อหุ้นโกลด์แมนแซคส์แม้ผลประกอบการอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 21, 2010 06:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นโกลด์แมน แซคส์ หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างรุนแรงในช่วงเช้า ภายหลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยผลประกอบการที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน หลังจากหุ้นดังกล่าวดิ่งลงในช่วงเช้าเพราะถูกกดดันจากรายงานตัวเลขการสร้างบ้านใหม่ที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 9 เดือนของสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 75.53 จุด หรือ 0.74% แตะที่ 10,229.96 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 12.23 จุด หรือ 1.14% ปิดที่ 1,083.48 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 24.26 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 2,222.49 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.22 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 4 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปิดพุ่ง 2.2% เนื่องจากจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาหุ้นดิ่งลงอย่างหนักในช่วงเช้า ภายหลังจากโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 2 ทรุดตัวลง 83% มาอยู่ที่ระดับ 453 ล้านดอลลาร์ หรือ 78 เซนต์ต่อหุ้น เพราะได้รับผลกระทบจากการนำเงินจำนวนมากมาใช้ในการยุติคดีความกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) นอกจากนี้ ผลประกอบการของโกลด์แมน แซคส์ หดตัวลงเนื่องจากรายได้จากแผนกวาณิชธนกิจและเทรดดิ้งที่อ่อนแอลง

นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ก็เพราะมีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการที่หดตัวลงของธนาคารในสหรัฐ รวมถึงโกลด์แมน แซคส์ ซิตี้กรุ๊ป และแบงค์ ออฟ อเมริกา ไม่ได้สะท้อนถึงภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา แต่มีสาเหตุมาจากภาวะผันผวนในตลาดการเงิน

นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน หลังจากหุ้นดังกล่าวดิ่งลงอย่างหนักในช่วงเช้าเพราะถูกกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ร่วงลง 5% มาอยู่ที่ระดับ 549,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยดัชนีหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยของมอร์แกน สแตนเลย์พุ่งขึ้น 4.2%

หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีน (ไอบีเอ็ม) ปิดร่วง 2.5% หลังจากไอบีเอ็มเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 9% สู่ระดับ 3.39 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.42 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ปิดลบ 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดเช่นกัน

หุ้นกลุ่มวัสดุพุ่งขึ้น 2.9% ขานรับราคาทองแดงในตลาดโลกที่ทะยานขึ้นถึง 2.5% ขณะที่ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.9% หลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้น 1.2% แตะที่ระดับ 77.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่กำลังผลักดันให้วุฒิสมาชิกพรรครีพับลีกันผ่านร่างกฎหมายขยายสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ว่างงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ถูกเลิกจ้างโดยไม่ได้ทำความผิด โดยร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ผ่านการรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นวุฒิสมาชิกพรรครีพับลีกันก็ขัดขวางไม่ให้ผ่านวุฒิสภาถึง 3 ครั้ง โดยอ้างว่าจะเป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณให้กับรัฐ

มิทช์ แมคคอนเนล สมาชิกสภาผูแทนราษฎรจากพรรครีพับลีกัน กล่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลีกันเห็นด้วยกับการขยายสิทธิประโยชน์ให้ผู้ว่างงาน แต่ไม่เห็นด้วยที่รัฐจะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยระบุว่ารัฐบาลทำให้ตัวเลขขาดดุลระดับ 3.2% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 10% ของจีดีพีภายในระยะเวลาเพียงปีครึ่ง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมิ.ย. ส่วนวันศุกร์ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ