ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการในภาคเอกชน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรที่ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสร้างบ้านใหม่ที่ดิ่งลงหนักสุดในรอบ 9 เดือน
ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 8.82 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 5,139.46 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,090.57 - 5,179.99 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการในภาคเอกชน หลังจากโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 2 ทรุดตัวลง 83% มาอยู่ที่ระดับ 453 ล้านดอลลาร์ หรือ 78 เซนต์ต่อหุ้น เพราะได้รับผลกระทบจากการนำเงินจำนวนมากมาใช้ในการยุติคดีความกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC)
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการก่อสร้างบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ร่วงลง 5% มาอยู่ที่ระดับ 549,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการก่อสร้างบ้านใหม่หดตัวลงด้วย
หุ้นบริติช เทเลคอม (บีที) ปิดร่วง 3.2% เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าทางบริษัทบีทีอาจได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลอังกฤษปรับลดงบประมาณการใช้จ่าย ขณะที่หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส เวิลด์ไวด์ ปิดร่วง 17.4% หลังจากผู้บริหารของบริษัทได้ออกมาแสดงความกังวลว่าธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลอังกฤษเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะทองแดงในตลาดโลก โดยหุ้นริโอทินโตปิดบวก 4.1% หุ้นเอ็กสตราต้าปิดบวก 3.7% และหุ้นอันโตฟากัสต้าปิดพุ่ง 2.5%