SCB เผย Q2/53 กำไรสุทธิ 5.32 พันลบ.โต 1.6%จาก Q2/52,ลด 16.6% จาก Q1/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 21, 2010 09:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/53 ก่อนการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอิสระ มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 5,316 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.6 จากจำนวน 5,234 ล้านบาทในไตรมาส 2/52

การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนส่วนใหญ่เกิดจาก การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ, รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงเป็นจำนวนมากกว่ารายได้ดอกเบี้ย และ สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลงจากคุณภาพของสินทรัพย์ของธนาคารที่ปรับตัวดีขึ้น

กำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 8,558 ล้านบาทในไตรมาส 2/53 จากจำนวน 8,619 ล้านบาทในไตรมาส 2/52 เป็นผลมาจากกำไรจากการปริวรรตที่ลดลงจากรายได้ที่มาจากธุรกรรมบริหารเงิน (Treasury) ที่ลดลง

กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้นเป็น 1.56 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2/53 จาก 1.54 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 2/52 อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) ลดลงเป็นร้อยละ 14.4 ในไตรมาส 2/53 จากร้อยละ 16.0 ในไตรมาส 2/52 และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROAA) ทรงตัวที่ร้อยละ 1.6 ในไตรมาส 2/53

เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 16.6 จากจำนวน 6,375 ล้านบาทในไตรมาส 1/53 ส่วนใหญ่เป็นผลจาก (1) รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่ลดลงเนื่องจากไม่มีเงินปันผลรับจากกองทุนรวมวายุภักษ์ที่บันทึกในไตรมาส 1/53 (2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการตลาดที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูภาคธุรกิจที่ถูกกระทบจากความไม่สงบทางการเมืองในเดือนเมษายนและพฤษภาคม

(3) กำไรจากการปริวรรตที่ลดลงโดยเฉพาะจากธุรกิจบริหารเงิน (Treasury) ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) ลดลงร้อยละ 11.3 จากไตรมาสก่อน เป็นจำนวน 8,558 ล้านบาทในไตรมาส 2/53 จากจำนวน 9,648 ล้านบาทในไตรมาส 1/53

สำหรับงวดครึ่งปีแรกปี 53 กำไรสุทธิอยู่ที่จำนวน 11,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากจำนวน 10,781 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 52 เนื่องจาก (1) การเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ และจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทร่วม (2) รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงเป็นจำนวนมากกว่ารายได้ดอกเบี้ย (3) สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่ลดลงจากการที่คุณภาพของสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวดีขึ้น กำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นจำนวน 18,206 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 53 จากจำนวน 17,349 ล้านบาทในครึ่งปีแรกปี 52

นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร SCB กล่าวถึงผลประกอบการของไตรมาส 2/53 ว่า การขยายตัวด้านสินเชื่อในระดับสูงแม้ว่าสถาณการณ์การเมืองในประเทศไม่ปกติ สะท้อนถึงความสำเร็จในยุทธศาสตร์ในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มลูกค้าหลัก โดยเฉพาะลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้า SME สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์" ประธานกรรมการบริหารกล่าวเสริมอีกว่า “ผลการดำเนินงานที่ดีเป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์ในการมุ่งสร้างความเป็นเลิศในการให้บริการของธนาคารและบริษัทในกลุ่มฯ ถือเป็นรากฐานสำคัญต่อการเจริญเติบโตในไตรมาสต่อๆ ไป

สินเชื่อ ขยายตัวถึง 7.1% เทียบกับไตรมาส 2/52 และเพิ่มขึ้น 3.5% จากไตรมาส 1/53 โดยเป็นการเติบโต ในทุกกลุ่มลูกค้า กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัว 7.9% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.0% จากไตรมาส 1/53 โดยเป็นการนำไปขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินเชื่อธุรกิจ SME ขยายตัว 3.5% เทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4.7% จากไตรมาส 1/53 อันเป็นผลจากกลยุทธ์ใหม่ของธนาคารในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจ SME สินเชื่อลูกค้าบุคคลขยายตัว 11.4% เทียบกับปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาส 1/53 โดยมาจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังมีความต้องการอยู่ในระดับสูง

รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเติบโตดี แม้ว่าการให้บริการของสาขาธนาคารจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศอยู่บ้าง รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการยังขยายตัวที่ 10.7% เทียบกับไตรมาส 2/52 โดยมาจาก Bancassurance ธุรกิจบัตร และรายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากการให้สินเชื่อเป็นหลัก

คุณภาพสินทรัพย์ ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงมาอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาทในไตรมาสนี้ (เทียบกับ 1.4 พันล้านบาทในไตรมาส 2/52) ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 98.9%

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCB กล่าวว่า ผลประกอบการที่ดีในไตรมาสนี้ แม้ว่าต้องดำเนินธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมที่อ่อนไหวเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธนาคาร และการมีใจทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ของพนักงานธนาคาร อันแสดงถึงพลังของทีมงานซึ่งเป็นจุดเด่นของธุรกิจการให้บริการทางการเงิน ตอกย้ำความเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรชั้นนำของประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ