นายพิชัย ชุณหวชิระ กรรมการ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้อนุมัติโครงการลงทุนผลิตพรอพพิลีน ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตโพลีพรอพพิลีน กำลังการผลิตกว่า 1 แสนตัน/ปี ใช้งบลงทุนประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอยู่นอกเหนือจากโครงการฟีนิกซ์จำนวน 19 โครงการ
"เป็นโครงการในแผนเดิมที่ชะลอไปตั้งแต่ปี 51 เมื่อราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวดีขึ้น จึงได้นำมาพิจารณาการลงทุนใหม่อีกครั้ง"นายพิชัย กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่นอกโครงการฟีนิกซ์ ที่บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุน
ส่วนการควบรวมกิจการกลุ่มบริษัทในเครือ บมจ.ปตท.(PTT)ยังคงต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมาโดยส่วนตัวยืนยันมาตลอดว่าการควบรวมกิจการต้องได้ประโยชน์ร่วมกันมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่คุ้มค่าก็ไม่ควรดำเนินการ
"แปลกดีที่ประเด็นการชี้มูลมาเกิดในช่วงนี้ เราก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมความคุ้มค่าของการควบรวม ไม่ใช่ว่าควบรวมแล้วบริษัทใหญ่ขึ้น มูลค่าเพิ่มขึ้น แต่ภาระด้านอื่นเพิ่มขึ้นด้วย เราก็ต้องศึกษาให้ดีก่อน คงต้องใช้เวลาแต่เข้าใจว่าตอนนี้ทุกฝ่ายต้องการความชัดเจน"นายพิชัย กล่าว
ขณะที่นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ในฐานะประธานกรรมการ IRPC กล่าวว่า ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้มีการชี้แจงด้วยเอกสารกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวโทษ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดกรณีที่ให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย (TPI)
ทั้งนี้ เพื่อให้กรรมการบริษัททุกคนได้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งการศึกษาด้านกฎหมายต้องพิจารณาผลกระทบประกอบกันด้วย และทางคณะกรรมการบริษัทจะได้มีโอกาสเสนอแนวคิดร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า การควบรวมกิจการในเครือ ปตท.จะแล้วเสร็จเมื่อใดไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติมอีก และที่ผ่านบริษัทยังไม่ได้ยืนยันว่าจะให้บริษัทใดในกลุ่มทั้ง 4 บริษัท ได้แก่ IRPC ,บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR), บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และ บมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) จะควบรวมบริษัทใดก่อน เพียงแต่กำหนดว่าจะควบรวมบริษัทในพื้นที่จังหวัดระยองก่อนเท่านั้น