บมจ.การบินไทย(THAI)ยอมรับว่าผลดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/53 จะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งโดยปกติช่วงไตรมาส 2 ของทุกปีเป็นช่วงโลว์ซีซั่นอยู่แล้ว และยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความวุ่นวายในข่วงการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วง เม.ย.-พ.ค.53 ทำให้รายได้หายไปถึง 6 พันล้านบาท แต่บริษัทยังเชื่อมั่นว่าผลประกอบการทั้งปี 53 จะยังคงมีกำไร เนื่องจากผลงานในช่วงไตรมาส 1/53 และไตรมาส 4/53 จะเติบโตอย่างโดดเด่น
"ผลการดำเนินงานตามผลประกอบการอย่างเดียว บริษัทน่าจะประสบกับภาวะขาดทุนในไตรมาส 2 แต่ยังไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนและการประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัท...แต่ทั้งปียังเชื่อว่าบรรทัดสุดท้ายยังเป็น net profit "นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3/53 ผลประกอบการของบริษัทน่าจะฟื้นกลับมาได้ เพราะตัวเลขผู้โดยสารดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจากผลของการทำโปรโมชั่น โดยช่วง 15 วันที่ผ่านมานี้บางวันอัตราการบรรทุกผู้โดยสารสูงกว่า 80% แต่ต้องยอมรับว่าการทำโปรโมชั่นก็ทำให้ yield ของบริษัทลดลงบ้าง แต่ก็ต้องทำเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการ และเตรียมความพรัอมสำหรับไตรมาส 4/53 ซึ่งปกติเป็นช่วงไฮซีซั่น ปีนี้ก็คาดว่าจะกลับมาดีขึ้น อย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับปีก่อน
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า สำหรับแผนเพิ่มทุนขณะนี้คาดว่าจะสรุปความชัดเจนทั้งเรื่องราคา และการโรดโชว์ได้ในช่วงปลายไตรมาส 3/53 และต้นไตรมาส 4/53 ซึ่งขณะนี้เชื่อว่าจากทิศทางราคาหุ้นและทิศทางผลประกอบการของบริษัทในอนาคตจะทำให้หุ้นเพิ่มทุนของบริษัทได้รับความสนใจ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม แต่ปีนี้ได้เห็นแน่นอน
ส่วนการออกหุ้นกู้ แม้ว่าจะกำหนดแผนในปีนี้ แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะสามารถออกได้หรือไม่ คงต้องรอดูสถานการณ์ที่เหมาะสม ประกอบกับ บริษัทยังมีวงเงินเครดิตไลน์จากสถาบันการเงินที่ให้ข้อเสนอที่ดีถึง 1.5 หมื่นล้านบาทอยู่แล้ว และยังมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะใช้เป็นทุนหมุนเวียนและการลงทุนขนาดใหญ่
นอกจากนี้ แผนการลงทุน 5 ปี(53-57)คาดว่าจะใช้เงิน 1.5 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่จะใช้ในการเพิ่มฝูงบินและลดอายุเฉลี่ยการใช้งานของเครื่องบินจาก 11.5 ปี เหลือ 8 ปี ภายในปี 67 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันและค่าบำรุงรักษา
ทั้งนี้ แผนการลดต้นทุนยังเป็นเป้าหมายหลักที่บริษัทดำเนินการมาตลอดตั้งแต่ประสบปัญหาทางการเงิน โดยในปี 52 ลดต้นทุนได้ 1.2 หมื่นล้านบาท และปีนี้มีแผนจะลดอีก 3 พันล้านบาท อยู่ภายใต้แผน 3 ปี(53-55)ต้องลดทุนให้ได้รวม 2 หมื่นล้านบาท