นายตัน เล เยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) หรือ IFS คาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือนสิงหาคม 2553 จากจำนวนหุ้นที่เสนอขาย จำนวน 120 ล้านหุ้น เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมและด้วยสภาวะของตลาดทุนที่เอื้ออำนวย เศรษฐกิจของประเทศก็ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและเข้าจดทะเบียนได้ประมาณในปลาย กรกฎาคม - ต้นสิงหาคม
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนกว่า 100 ล้านบาทนั้น จะนำไปใช้ในการขยายการให้บริการและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัททั้งฯ ด้านสินเชื่อแฟคตอริ่ง และสินเชื่อเช่าซื้อ เพราะเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพ เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายถึงธุรกิจของ IFS ที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมากเช่นกัน
ทั้งนี้ในปี 2552 บริษัท มีกำไรสุทธิ 71.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิ 71.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.22% โดยบริษัทมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าในทุกภาคธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนหรือเงินลงทุน ในทุกภาคธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรม พาณิชย์ หรือบริการ เช่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร เครื่องดื่ม ยา กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ การบริการ เช่น จัดหางาน รักษาความปลอดภัย บันเทิงและนันทนาการ
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 470 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 470 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนชำระแล้ว 350 ล้านบาท