ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากอังกฤษเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.ที่พุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก และหุ้นกลุ่มพลังงานที่ทะยานขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 99.17 จุด ปิดที่ 5,313.81 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ซึ่งรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดขึ้น 2.4%
หุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบหลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) ระบุว่า พายุดีเปรสชั่นอย่างน้อย 3 ลูกได้ก่อตัวขึ้นและคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกภายในช่วงสุดสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท แคทเทอร์พิลลาร์, 3M, ยูพีเอส และเอทีแอนด์ที รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของยุโรป โดยตัวเลขจีดีพีของ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร หรือ ยูโรโซน ขยายตัวเกินคาด และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อในยุโรปขยายตัวแข็งแกร่งเช่นกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป