นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกสดใส โดยตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันหมด อย่างตลาดญี่ปุ่นบวก 1.75%, ตลาดออสเตรเลียบวก 1.7% และตลาดไต้หวันบวก 1.28% แม้แต่ตลาดในแถบยุโรปก็บวกกันถ้วนหน้าเช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้น
การที่ตลาดโลกสดใสเป็นผลจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง ภายหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจในยุโรปออกมาดีขึ้น ทำให้มีการย้ายเม็ดเงินเข้าไปลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น อย่างพวกอาหาร และน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นดี และยังเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวนี้คงจะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานในตลาดบ้านเรามีการรีบาวน์ขึ้นได้ แต่ก็มองคงเป็นเพียงช่วงสั้น เนื่องจากยังมีความกังวลในเรื่องของการจ่ายค่าเสียหายจากกรณีน้ำมันรั่วอยู่
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 830 จุด แนวต้าน 840-845 จุด โดยคาดว่าแรงซื้อน่าจะเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น
ด้านนายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยมีโอกาสขึ้นทดสอบแถว 840 จุด
ปัจจัยในประเทศยังพบว่าเป็นลักษณะการเล่นจากประเด็นผลประกอบการ และเล่นตามประเด็นของแต่ละ Sector เช่น กลุ่มธนาคารก็จะเป็นเรื่องผลประกอบการที่ประกาศออกมา ส่วนกลุ่มสื่อสารก็เก็งกำไรเข้ามาเหมือนกัน และนักลงทุนยังติดตามเรื่องหุ้นที่มีการเก็งกำไรก่อนหน้านี้ว่าจะมีตัวไหนบ้างที่เข้าข่ายว่ามีแนวโน้มที่จะ Turnover list
ส่วนปัจจัยในต่างประเด็นก็ยังต้องติดตามการเรื่อง stress test ของธนาคารยุโรป พร้อมให้แนวรับ 820 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 840-843 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้(22 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,322.30 จุด เพิ่มขึ้น 201.77 จุด(+1.99%)เอส
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 251.92 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 79.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.74 ดอลลาร์หรือ 3.58%
- "เบอร์นันเก้"เตือนแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐไม่แน่นอนอย่างผิดปกติ ระบุเฟดพร้อมใช้มาตรการเพิ่มหากการฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง"แบงก์ชาติ"หวั่นครึ่งปีหลังภาคการส่งออกชะลอ แนะจับตาเศรษฐกิจโลก ชี้ยังมีความเสี่ยงอยู่ จับตาจีนเตรียมออกมาตรการชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ
- แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เผยหลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ขยับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% เป็น 1.5% ทำให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทยอยขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ตาม แต่เงินฝากนั้นมีการปรับขึ้นเฉพาะเงินฝากประจำ ส่วนเงินฝากออมทรัพย์ยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5%
- เอกชนลังเลข้อเสนอคลังอัพเกรด 2จี แลกใบอนุญาต “ทรู" หวั่นหนีเสือปะจระเข้ ต้องจ่ายหนักกว่าเดิม ขอรายละเอียด-ข้อมูล ค่าใช้จ่าย-การจัดการทรัพย์สิน เอไอเอส-ดีเทค เห็นด้วยอัพเกรดเทคโนโลยี แต่ห่วงเรื่องการจัดสรรคลื่น ติงข้อมูลยังไม่ชัด ทุกรายประกาศมุ่งคว้าใบอนุญาต 3จี จาก กทช. “ไอซีที" แจง 28 ก.ค. ได้ความชัดเจน เปลี่ยนสัมปทาน 2จี เป็นใบอนุญาต พร้อมยันไม่กระทบกำหนดประมูล 3จีใหม่ ติง สคร.อย่าแตกประเด็นสร้างความสับสน ขณะที่ “ฟิทช์" ห่วงแปลงสัญญาทำหนี้ค่ายมือถือเพิ่ม
- องค์กรการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา(อังค์ถัด)จัดทำรายงานการลงทุนโลก หรือ World Investment Report 2010 พบว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(เอฟดีไอ)ของโลกลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2551
- ความเชื่อมั่นอุตฯ เดือน มิ.ย. ฟื้นตัวครั้งแรกรอบ 5 เดือน นายกฯ ได้ทีย้ำเศรษฐกิจปีนี้โตแน่ 6% สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 103.3 เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ค.ที่ระดับ 94.7 เป็นผลจากการปรับเพิ่มขึ้นของยอดคำสั่งซื้อ ยอดขายการผลิต และผลประกอบการ
- ผู้อำนวยการสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน หรือ สบพ. เผยสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีเงินทุนสะสมอยู่ 2.4 หมื่นล้านบาท แต่ภาระจ่ายชดเชยนำเข้าก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ฐานะสุทธิของกองทุนน้ำมันฯ บางเดือนอยู่ในภาวะติดลบ สลับกับบางเดือนที่เป็นบวกเพียงกว่า 100 ล้านบาท โดยหวังว่าครึ่งปีหลังหากโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ของบริษัท ปตท. เดินเครื่องได้จะช่วยลดการนำเข้าแอลพีจีได้บ้าง