บมจ.อสมท.(MCOT) เตรียมพิจารณาปรับขึ้นค่าโฆษณาราว 10% ต้นปี 54 หลังจากในช่วงปลายปีนี้ราว ก.ย.-ต.ค.53 จะมีการปรับผังรายการทั้งในช่วงไพร์มไทม์และนอนไพร์มไทม์ โดยจะมีการเพิ่มรายการเรียลริตี้ใหม่อีก 2 รายการในช่วงปลายปีนี้ด้วย
ส่วนผลประกอบการในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโต 7-10% ตามเป้าหมาย โดยในช่วงไตรมาส 3/53 จะมีการบันทึกรายได้จากรายการและกิจกรรมช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยยอดรวมน่าจะสูงกว่า 35 ล้านบาท ถือว่าเกินกว่าคาด ส่วนการลงทุนในธุรกิจเคเบิลทีวีและ Pay TV คงจะทยอยดำเนินการ ภายใต้งบรวม 500 ล้านบาทภายใน 3 ปี จึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่องบการเงินของบริษัทมากนัก
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ MCOT เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาในรายการที่ไม่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นมาเป็นเวลานานทั้งนอนไพร์มไทม์และไพร์มไทม์ รวมทั้งรายการใหม่จะมีการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 10% โดยจะเริ่มในปี 54
"ตอนนี้เราอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการปรับเพิ่มค่าโฆษณาใหม่คงเริ่มได้ปีหน้าเลยหลังเราไม่ได้ปรับเพิ่มค่าโฆษณาเพราะดูจากความต้องการเริ่มกลับมาดี Spot เพิ่มขึ้นแสดงว่าพื้นที่เริ่มเต็ม ตอนนี้ทางทีมกำลังทำเรื่องเสนอมาคงพิจารณาปลายปีและเริ่มปีหน้า ถัวเฉลี่ยขึ้นประมาณ 10%"นายเขมทัต กล่าว
นายเขมทัตต์ กล่าวต่อว่า อสมท จะมีการปรับผังรายการในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.นี้ ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้ อสมท มีแผนจะปรับผังรายการตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาและคาดว่าการปรับผังจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.
การปรับผังรายการจะทำทั้งช่วงเวลานอนไพร์มไทม์และไพร์มไทม์ โดยเฉพาะรายการทอล์คโชว์ช่วงเวลาเช้าและบ่ายจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ส่วนเวลาไพร์มไทม์จะมีการปรับใหญ่ตามโปรแกรมของรายการจะหมดช่วงเวลาลง โดยหลังจากอะคาเดมี แฟนเทเซีย ซีซั่น 7 จบลง จะมีรายการเรียลลิตี้โชว์แข่งขันร้องเพลง คือ เคพีเอ็น อวอร์ด ต่อทันที
รวมทั้งจะมีเรียลลิตี้บันเทิงใหม่อีก 2 รายการ ที่จะมีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี ซึ่งถือว่าเป็นรายการที่ร่วมมือกันระหว่างหลายผู้จัด ทั้งนี้ ถือว่าจะเป็นเรียลลิตี้ใหญ่ของปีนี้และเป็นรายการใหม่ยังไม่เคยออกอากาศทาง อสมท.ในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อสมท.ยังมีการจัดงานอีเว้นต์ใหญ่ อาทิ งานนางสาวไทยและแคมเปญที่ต่อยอดกับกระแสฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ อสมท.ในช่วงครึ่งปีหลัง
นายเขมทัต กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่ารายได้ยังคงโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าโต 7-10% และในไตรรมาส 3/53 จะรับรู้รายได้พิเศษจากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่มีกว่า 35 ล้านบาท เนื่องจากโปรแกรมนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากนี้ยังจะมีโปรแกรมต่อยอดจากฟุตบอลโลก โดยมองว่ากระเสกีฬายังคงอยู่ในความสนใจของประชาชนเชื่อว่าจะเป็นส่วนช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทด้วย
ในแง่ของกำไรสุทธิของบริษัทจะเติบโตตามรายได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและรายจ่ายพิเศษ ซึ่งรายการส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นการร่วมผลิต(Time sharing)ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่ารายการที่ผลิตเองอยู่แล้ว และคาดว่าจะมีกำไรสามารถจ่ายปันผลระหว่างกาลได้เช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมาด้วย
นายเขมทัตต์ กล่าวในที่สุดว่า การลงทุนของ อสมท.ยังคงมีแผนลงทุน Cable TV และ Pay TV เช่นเดิม โดยงบลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท แต่เป็นการทยอยลงทุน 3-5 ปี ซึ่งยืนยันว่าไม่กระทบต่องบการเงินของบริษัทเพราะเป็นการทยอยลงทุนและคาดว่าปีหน้าจะเริ่มสร้างรายได้ให้กับ อสมท.
ส่วนการที่รัฐบาลให้ อสมท มีส่วนในการซื้อคืนดาวเทียมไทยคมนั้นทางอสมทยังไม่เคยได้รับการติดต่อหรือมีคำสั่งใดๆมายังอสมทเลย