หุ้น PLE บวก 8.12% มาอยู่ที่ 1.73 บาท เพิ่มขึ้น 0.13 บาท มูลค่าซื้อขาย 110.55 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.53 น.โดยเปิดตลาดที่ 1.62 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.79 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.62 บาท
ผู้บริหาร บมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง(PLE) ระบุว่า ขณะนี้บริษัทได้รับงานวิศวกรรมวางระบบในอาคารที่การ์ต้าคือ Hammad Medical City มูลค่างานเป็น 4 พันล้านบาท ร่วมกับทางฮุนได ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลัก และยังมีงานวางระบบ Energy Complex ในตะวันออกกลาง มูลค่า 3-4 พันล้านบาท ที่คาดว่าจะรู้ผลภายในปลายปี 53 หลังเลื่อนมาจากกลางปี ซึ่งบริษัทร่วมทุนของ PLE เข้าร่วมประมูลงานดังกล่าว
ขณะที่งานในประเทศ บริษัทมีแผนจะเข้าประมูลงานทั้งภารรัฐและเอกชน มูลค่ารวมประมาณ 3-4 พันล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลภายในเดือน ส.ค.นี้
นายเสวก ศรีสุชาติ ประธานกรรมการ PLE กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทยังคงเดินหน้าในการเข้าประมูลงานก่อสร้างอาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ในครึ่งปีแรกงานจะน้อยจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้น โดยสำหรับงานในประเทศนั้นบริษัทอยู่ระหว่างการประมูลทั้งภาครัฐและเอกชนมูลค่า 3-4 พันล้านบาท มั่นใจว่าจะได้รับเป็นส่วนใหญ่ และจะรู้ผลในเดือนส.ค นี้
ขณะที่งานในต่างประเทศที่จะเข้าไปรับสร้างอาคารในตะวันออกกลางางส่วนยอมรับว่าล่าช้าไปบ้าง แต่คงจะเห็นการเข้าไปจัดการได้ในช่วงปลายปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะเห็นในช่วงกลางปีนี้ ไม่รวมงานวิศวกรรมวางระบบในอาคารที่การ์ต้าที่ได้รับไปแล้ว ซึ่งจะทยอยบันทึกรายได้เข้ามา นอกจากนี้ยังมีงานวางระบบที่มีโอกาสจะได้รับ Energy Complex ที่การ์ต้า มูลค่างาน 3.0-4.0 พันล้านบาท
ทั้งนี้ งานที่รับเข้ามาใหม่เป็นการเพิ่มมูลค่างานในมือ(backlog)จากปัจจุบันที่มี 4-5 พันล้านบาท
"ตอนนี้งานในต่างประเทศเรามีเพียง 2 แห่งที่การ์ต้าและตะวันออกกลาง ซึ่งยอมรับว่างานที่เราเข้าไปทำมีความล่าช้าค่อนข้างมากจากปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น แต่เราก็ยอมเสียโอกาสโดยจะมองประเทศอื่นเพิ่มเติมด้วยเหมือนกัน"นายเสวก กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในปี 53 เชื่อว่าบริษัทจะมีกำไรที่ดีขึ้นจากปีก่อน แม้ว่ามูลค่างานในปีนี้จะน้อยกว่า เนื่องจากในปีนี้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้ต้นทุนในการบริหารงานลดลง รวมทั้งบริษัทมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และควบคุมการผลิต ทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลง
แต่ในส่วนของรายได้ยอมรับว่าในปีนี้จะลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 8-9 พันล้านบาท เพราะจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลให้งานที่บริษัทได้รับมาแล้วต้องล่าช้าในด้านการก่อสร้างไประยะหนึ่ง