สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอแจ้งให้ผู้ถือหุ้นของ บมจ.ซันไชน์ คอร์เปอเรชั่น(SSE)และผู้ถือหุ้นของบมจ. เอส แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ (SPACK) ศึกษาข้อมูลและความเห็นที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ และเข้าประชุมเพื่อใช้สิทธิออกเสียงเพื่อรักษาประโยชน์ของตน ในวันที่ 9 ส.ค.53 และ 30 ก.ค. 53 ตามลำดับ กรณีที่ SSE จะซื้อหุ้นของบมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO)จาก SPACK ซึ่ง SSE และ SPACK เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
ในกรณีของ SSE การซื้อหุ้น EPCO จะทำให้ SSE ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EPCO และ SSE จะกู้ยืมเงินจากนางโฉมพิศ บุนนาค ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของ SSE(ถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน) ทั้งนี้ ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระและคณะกรรมการตรวจสอบของ SSE มีความเห็นให้ผู้ถือหุ้นของ SSE ไม่อนุมัติการทำรายการดังกล่าว
เหตุผลที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของ SSE เห็นควรให้ผู้ถือหุ้นลงมติไม่อนุมัติรายการซื้อหุ้น EPCO และการกู้ยืมเงินจากกรรมการและผู้ถือหุ้นรายดังกล่าวนั้น เนื่องจากหากต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EPCO นั้น SSE จะต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งการกู้ยืมเงินจะทำให้ SSE มีภาระดอกเบี้ยจำนวนมาก และจะส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินและสภาพคล่องของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
และหาก SSE ไม่สามารถหาเงินทุนให้เพียงพอต่อการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ SSE มีความจำเป็นจะต้องลดสัดส่วนการถือหุ้น EPCO ให้ต่ำกว่าร้อยละ 25 โดยการขายหุ้น EPCO ให้บุคคลอื่นหรือขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาหุ้น EPCO ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ SSE ขาดทุนจากการเข้าทำรายการในครั้งนี้
นอกจากนี้ เงินทุนที่ใช้ส่วนหนึ่งมาจากการขายเงินลงทุนใน บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) ซึ่ง SSE จะต้องขายหุ้นทั้งหมดก่อนการซื้อหุ้น EPCO อาจจะทำให้ SSE ขาดทุนจากการขายเงินลงทุนใน GEN ได้
ในส่วนของราคาหุ้น EPCO ที่จะซื้อขายที่ 1.94 บาทต่อหุ้นนั้น ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาความเห็น ข้อสังเกต และวิธีการประเมินราคาหุ้นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของทั้งสองฝ่ายให้รอบคอบก่อนตัดสินใจใช้สิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น