นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) กล่าวว่า บริษัทได้ปรับประมาณการยอดขายในปี 53 เพิ่มเป็นเติบโต 20-25% จากประมาณการเดิมที่ตั้งไว้กว่า 10% เนื่องจากครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายเติบโตแล้ว 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในครึ่งปีหลังบริษัทคงจะไม่สามารถเติบโตได้เท่ากับครึ่งปีแรก เนื่องจากสัดส่วนยอดขายสำคัญที่มาจากธุรกิจปิโตรเคมีเริ่มมีทิศทางที่ชะลอตัวลง จากการที่มีกำลังการผลิตใหม่จากจีนและตะวันออกกลางเข้ามา ซึ่งเห็นได้จากส่วนต่างราคาขายกับต้นทุนวัตถุดิบปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากไตรมาส 2/53 ที่อยู่เหนือ 400 เหรียญ/ตัน อ่อนตัวมาที่ 370 เหรียญ/ตัน แต่ก็ยังโชคดีที่เดือนที่ผ่านมาโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่ในไต้หวันประสบปัญหาทำให้กำลังการผลิตในตลาดโลกหายไปบางส่วน
ส่วนธุรกิจปูนซิเมนต์ กำลังซื้อในประเทศน่าจะยังดีต่อเนื่อง โดยคาดว่าปริมาณขายในปีนี้จะเติบโตเกือบ 10% หรือมียอดขายประมาณ 26-27 ล้านตัน และต่างประเทศ ครึ่งปีแรกส่งออกแล้ว 3.7 ล้านตัน ครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดส่งออกประมาณ 3.9 ล้านตัน
ด้านธุรกิจกระดาษ ยังคงมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนทั้งในแง่ของราคากระดาษน้ำตาลและกระดาษขาว รวมทั้งบริษัทมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นจากโรงงานที่ขอนแก่นและเวียดนาม
นายกานต์ กล่าวถึงโครงการลงทุนในมาบตาพุดว่า โครงการที่ยังชะงักอยู่ 14-15 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 5 หมื่นล้านบาท หากรัฐบาลมีการพิจารณาประกาศ 18 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนออกมา เชื่อว่าจะทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น เพราะจะมีบางโครงการของบริษัทที่สามารถพ้นจากเงื่อนไขต้องระงับโครงการไว้ก่อนตามคำสั่งศาล
"ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากโครงการที่มาบตาพุดที่หยุดชะงักลงไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยอมรับว่ามีความเสียหาย เพราะมีหลายกิจการที่พร้อมเดินเครื่องและมีบางส่วนที่กำหนดจะแล้วเสร็จกลางปีหน้าด้วย"นายกานต์ กล่าว
สำหรับโรงแครกเกอร์แห่งที่ 2 ขณะนี้บริษัทสามารถเดินเครื่องได้เพียง 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด เนื่องจากโครงการต่อเนื่องในส่วนของดาวน์สตรีมยังติดปัญหามาบตาพุด
นายกานต์ เปิดเผยว่า บริษัทยังมองโอกาสที่จะขยายธุรกิจในประเทศพม่าในอนาคต จากปัจจุบันที่เป็นการทำธุรกิจเทรดดิ้งด้วยการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่าย อาทิ ปูนซิเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างมาก แต่ขณะนี้ยังติดปัญหาที่กำลังซื้อค่อนข้างน้อย