นายสุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD)กล่าวว่า บริษัทเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ M Project มุ่งเจาะกลุ่มค้าระดับบน โดยเฉพาะคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีรายได้สูง โดยจะเปิดตัวโครงการ M Silom ราคา 6 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ 1.2 แสน/ตร.ม. รวมมูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท เริ่มเปิดขาย 5 ส.ค.นี้
ก่อนหน้านี้ บริษัทประสบความสำเร็จในการเปิดขายโครงการ M Phayathai ในเดือน ก.ค.ระดับราคา 4-5 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ 9.8 หมื่นบาท/ตร.ม.โดยขณะนี้ทำยอดขาย 40% ของมูลค่าโครงการ จำนวน 1,850 ล้านบาท และคาดจะปิดการขายได้ในปีนี้
ทั้ง 2 โครงการบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้า 70% เข้าซื้อไว้เพื่ออยู่เอง และอีก 30% ซื้อเพื่อเป็นการลงทุนหรือให้เช่า เพราะมองว่า โครงการที่พักอาศัยระดับบนในย่านสีลมยังมีความต้องการอยู่ และที่ผ่านมาลูกค้าของบริษัทซื้อเพื่อการลงทุนมาก โดยโครงการสีลมจะสร้างเสร็จใน 3 ปี หลังจากเริ่มสร้างปลายปี 53
นายสุริยา กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการภายใต้แบรนด์ M ราว 1-2 โครงการต่อปี แต่ก็ต้องพิจารณาภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ขณะนี้ก็กำลังมองทำเลไว้หลายแห่ง โดยบริษัทได้ใช้งบการตลาดแบบครบวงจร จำนวน 120 ล้านบาท เพื่อผลักดันแบรนด์ M ให้เป็นที่รู้จัก โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการภายใต้ แบรนด์ M อีก 1 โครงการในปลายปีหนี้ หรือต้นปี 54 มูลค่าราว 2 พันล้านบาท เชื่อว่าหากเศรษฐกิจดี โครงการจะได้รับการตอบรับที่ดี
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย(พรีเซล)รวมไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาท โดย 7 เดือนแรกทำได้แล้วประมาณ 1 พันล้านบาท และยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากยอดขายโครงการ M Phayathai และโครงการ M Silom ที่ สีลม มูลค่าโครงการรวม 4,050 ล่านบาท
"เราได้วางพรีเซลทั้งปีไว้ 4 พันล้านบาท จาก 2 โครงการนี้ และยังมีแผนเปิดโครงการ M แบบนี้อีก 1 โครงการในย่าน CBD มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท คาดว่าเป็นไตรมาส 4 กำลังดู location อยู่ อาจจะเห็นพรีเซลปลายไตรมาส 4 หรือต้นไตรมาส 1 ปีหน้า ดู timingที่เหมาะสม" นายสุริยา กล่าว
สำหรับการพัฒนาที่ดินเดิมที่เคยเป็นที่ตั้งร้านจิตรโภชนาย่านถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 6 ไร่ มูลค่าที่ดิน 740 ล้านบาท นายสุริยน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ขั้นตอนออกแบบ จะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และคอมมูนิตี้ มอลล์ รวมมูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/53 ทั้งนี้ ในปี 54 บริษัทจะเริ่มมีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า เป็น 20% จากเดิมที่ไม่มีรายได้จากส่วนนี้
นายสุริยา กล่าวว่า อาคารสำนักงานเริ่มมีแนวโน้มดี เพราะเชื่อว่าต่างชาติน่าจะกลับมาลงทุนในประเทศไทย เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป ซึ่งลูกค้าต่างประเทศ เฉลี่ย 25-30% จะคุ้นเคยกับการเมืองไทย จึงไม่ได้เป็นปัญหาของนักลงทุนกลุ่มนี้ และเห็นว่าปัจจัยหลักที่กระทบต่อธุรกิจ เห็นว่าจะมาจากเศรษฐกิจโลกมากกว่าการเมืองในประเทศ
"รายได้ปีนี้จะเป็นบุ๊กเปอร์เซนต์การสร้างเสร็จ แต่ปีหน้าเริ่มจะมีการโอน ....ปีนีจะ Focus โครงการ M และที่จิตรโภชนา " นายสุริยา กล่าวา
บริษัทมีงบซื้อที่ดินเพื่อขยายกิจการจำนวน 1 พันล้านบาทในปีนี้ โดยได้ซื้อที่ดินจิตรโภชนาแล้ว และยังมองหาทำเลอื่นอยู่
นายสุริยา กล่าวว่า โครงการที่รับรู้รายได้ปีนี้ ได้แก่ โครงการ WIND รัชโยธิน และ WIND สุขมุวิท 23 , โครงการวอเตอร์มาร์ค โครงการ Aguston สุขุมวิท 22