นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือทอท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการทอท.ได้อนุมัติปรับโครงสร้างท่าอากาศยานดอนเมืองให้สอดคล้องกับภารกิจ เพราะในปัจจุบันปริมาณจราจรของท่าอากาศยานดอนเมืองใกล้เคียงกับปริมาณจราจรในท่าอากาศยานภูมิภาคต่างๆ โดยโครงสร้างใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.53
พร้อมกันนี้ มีการปรับตำแหน่งผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมืองจะเทียบเท่าตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เช่นเดียวกับผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูมิภาค จากเดิมที่เทียบเท่าตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คงมีเพียงตำแหน่งผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เทียบเท่ารองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ส่วนอัตราพนักงานและลูกจ้างจะลดเหลือ 332 คน จาก 633 คน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านพนักงานลดเหลือเดือนละ 11 ล้านบาท จากปัจจุบันเดือนละ 25 ล้านบาท หรือลดลงปีละ 171 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ทอท.ปรับค่าภาระการใช้ท่าอากาศยาน, ทรัพย์สิน, บริการ และความสะดวกต่างๆ ในกิจการของ ทอท.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูมิภาค เพื่อให้มีความเหมาะสมตามลักษณะทางเศรษฐกิจ และสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ ทอท.มีสัดส่วนรายได้จากท่าอากาศยานภูมิภาคเพิ่มขึ้นเป็น 10% ของรายได้รวม จากเดิม 5% โดยทอท.มีรายได้รวมที่ประมาณปีละ 2.4 หมื่นล้านบาท
สำหรับอัตราค่าภาระฯ ที่ปรับปรุงแล้วจะส่งผลให้ท่าอากาศยานดอนเมือง จะมีอัตราค่าภาระไม่ว่าจะเป็นค่าเช่า ค่าบริการต่างๆ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10.75% ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.69% ท่าอากาศยานเชียงราย เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.14% ท่าอากาศยานภูเก็ต เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.11% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11.41%
ทั้งนี้ ทอท.จะเสนออัตราค่าภาระฯ ที่ปรับปรุงใหม่ให้คณะกรรมการการบินพลเรือน(กบร.) พิจารณาก่อน และจะมีผลบังคับใช้ภายหลัง 4 เดือน นับจากวันที่ ทอท.ได้รับหนังสือตอบกลับจาก กบร.