(เพิ่มเติม) KKคาดสินเชื่อปี53มีโอกาสทะลุเป้าหมายที่ 12%, H2 กำไร-รายได้ใกล้เคียงH1

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 3, 2010 15:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารเกียรตินาคิน(KK) ตั้งเป้าปี 53 ขายสินทรัพย์รอการขายทั้งหมดราว 4 พันล้าน ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ขายไปแล้วราว 1.9 พันล้านบาท และคาดว่าสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตได้ในระดับ 12% ตามเป้าหมาย หลังจากครึ่งปีแรกเติบโตไปแล้ว 8.1% เป็น 94,145 ล้านบาท

นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ KK คาดว่า กำไรและรายได้ในครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 1,584 ล้านบาท จากการเติบโตของสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ขยายตัวตามอุตสาหกรรมรถยนต์และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

"ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจดูดีกว่าครึ่งปีแรก ก็มีโอกาสสินเชื่อจะขยายตัวเกินกว่า 12% จากต้นปีที่เราตั้งเป้าหมายไว้ 8-12% ตอนนี้ตั้งเป้าเป็น 12% และครึ่งปีแรกทำได้ 8% เหลืออีก 4% ก็คิดว่าทำได้ไม่ยาก และมีแนวโน้มดี ความต้องการรถอาจอ่อนตัวลงในหน้าฝน ไตรมาส 4 ก็จะโตต่อเนื่อง" นายธวัชไชย กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปีนี้จะขยายตัว 20% โดยครึ่งปีแรกเติบโตแล้ว 11% แต่ยอมรับว่าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ยาก เพราะการแข่งขันรุนแรง คงต้องรออีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อเป็นอัตราคงที่ ทั้งนี้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ คิดเป็น 71% ของพอร์ตสินเชื่อรวม โดยขณะนี้มีลูกค้า 2.4 แสนราย แบ่งเป็นรถยนต์ใหม่ 58% และรถยนต์มือสอง 42%

อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกลุ่มอื่น ก็ปรับขึ้นตามอัตราดอกเบี้ย MLR ที่เป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามธนาคารใหญ่ ได้แก่ สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยในปีนี้คาดว่าเติบโต 5% จากครึ่งปีแรกลดลง 7.6% เพราะผู้พัฒนาโครงการมีการคืนหนี้ หลังได้รับโอน รวมทั้ง สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อธุรกิจ และ สินเชื่อปรับโครงสร้างจากเงินลงทุนและหนี้เดิม

นอกจากนี้ คาดว่าสิ้นปีนี้ธนาคารจะสามารถรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) ที่ระดับ 5.1% ซึ่งป็นระดับ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 53 และจากกำหนดเป้าหมายไว้ต้นปีที่จะทำให้ NPL ลดลงเหลือต่ำกว่า 6% ขณะเดียวกัน ธนาคารจะตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของสำรองทั่วไปเพิ่มขึ้นให้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ 87% โดยขณะนี้มีอัตราส่วน 78%

ขณะที่ ส่วนต่างอัตราดอกเบี่ย (NIM) คาดว่าในครึ่งปีหลังนี้จะอ่อนต้วจากครึ่งปีแรกที่อยู่ระดับ 5.5% แต่จะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ระดับ 5.0% เนื่องจากว่า ธนาคารมีต้นทุนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเพิ่มขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยล่าสุดขึ้นไป 0.25% และคาดหมายว่าถึงสิ้นปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นไปเป็น 2.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ