ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเช้านี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยดัชนีสัญญายอดขายบ้านที่ร่วงลง รวมทั้งยอดสั่งซื้อภาคโรงงานและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ส่งผลให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโลก
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,606.82 จุด ลดลง 87.19 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,567.33 จุด บวก 109.67 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดตลาดลบ 0.25% แตะ 2,620.5 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,795.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,960.30 บวก 2.77 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,570.10 จุด ลดลง 1.50 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,010.88 ลบ 3.89 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลบ 0.5% แตะ 121.14 จุด เมื่อเวลา 9.33 น.ตามเวลาท้องถิ่น
หุ้นแคนนอน และหุ้นเจมส์ ฮาร์ดี อินดัสทรีส์ ร่วงอย่างน้อย 1.5% ส่วนหุ้นมิตซูบิชิ คอร์ป ลบ 1.4% หลังจากที่ราคาโลหะอ่อนตัวลง ขณะที่หุ้นเอ็นทีที ดาต้า คอร์ป ร่วง 8.2% หลังจากที่กำไรสุทธิครึ่งปีแรกร่วงลง
สัญญทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,187.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,181.60 - 1,193.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 0.30 เซนต์ ปิดที่ 18.422 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 3.3585 ดอลลาร์/ปอนด์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ทรงตัว หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่อัตราการออมส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.4% ของรายได้หลังหักภาษี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงในขณะที่อัตราการออมพุ่งขึ้นเช่นนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้า
นักวิเคาะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลกันอีกรอบว่า เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่อีกครั้งอีกครั้ง
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 75.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 77.7 จุด และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% เนื่องจากนโยบายการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหมดอายุลง ซึ่งส่งผลให้ดีมานด์การทำสัญญาในกลุ่มผู้ซื้อลดลงไปด้วย