โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.การบินไทย(THAI)ช่วงเตรียมเพิ่มทุนราคาหุ้นมีลุ้นวิ่งขึ้นไปแถว 40 บาท โดยแผนเพิ่มทุนน่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.53 หากเป็นไปตามกระแสข่าวเพิ่มทุน 15,000 ล้านบาท ประเมินราคาขายหุ้นเพิ่มทุนก็อาจจะอยู่ที่ 35 บาท/หุ้น เกิด dilution effect แค่ 20%
ปัจจุบัน ราคาหุ้น THAI เมื่อเทียบกับ P/BV ของสายการบินอื่นในแถบภูมิภาคเอเชีย ถือได้ว่าราคาหุ้น THAI ยัง Laggard อยู่
นอกจากนั้น ขณะนี้ Cabin Factor ปรับตัวดีขึ้น ล่าสุดเดือน ก.ค.53 มาอยู่ที่ 76% เพิ่มขึ้นจากช่วงที่มีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และในช่วงครึ่งหลังปีนี้คาดว่า THAI จะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season และภาครัฐก็ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วย รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นในลักษณะต่าง ๆ
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2553)ของ THAI ไว้ที่ 8,000-15,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2552)ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,344 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น และรับผลจากกำไรจาก FX รวมถึงการดำเนินงานที่ดีขึ้น
สำหรับการร่วมทุนกับไทเกอร์แอร์เวย์สตั้งโลว์คอสแอร์ไลน์"Thai Tiger Airways"ในแง่ของกลยุทธ์ถือว่าดีต่อ THAI เพราะใช้เงินไม่มากแค่ 100 ล้านบาท และคาดหวังแย่งมาร์เก็ตแชร์จากสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่ง Tiger มีข้อดีที่มีเครื่องบินจำนวนมากและมีทุนหนา แต่ในช่วงสั้นอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างเพราะเริ่มมีเสียงคัดค้านบ้างแล้ว
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
บล.ทิสโก้ ซื้อ 35.00
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) ซื้อ 44.25
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 41.25
บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 40.00
บล.ธนชาต ซื้อ 42.00
บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ซื้อ 38.25
บล.ทรีนีตี้ ซื้อ 38.00
บล.ภัทร ซื้อ 37.00
นายฐาปน พานิช นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น THAI แต่ช่วงนี้มีเรื่องเพิ่มทุนเข้ามา ทำให้ราคาหุ้น THAI อาจจะปรับตัวขึ้นไปแถว 40 บาทได้ แต่ upside ที่เหลือก็จะไม่มาก จึงอาจจะปรับเป็นแนะนำ"ถือ"ช่วงนี้
แผนการเพิ่มทุนของ THAI คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.อยากรอเพิ่มทุนเสร็จก่อน แล้วค่อยมาดูกันอีกที หากเป็นไปตามกระแสข่าวที่ออกมาว่า THAI จะเพิ่มทุน 15,000 ล้านบาท ราคาหุ้นบนกระดานอยู่แถว 40 บาท ราคาขายหุ้นเพิ่มทุนก็อาจจะขายที่ 35 บาท/หุ้น ซึ่ง THAI ก็จะเกิด dilution effect แค่ 20% ถือว่าไม่ได้แย่
สำหรับการเข้าร่วมทุนกับ Tiger Airways ตั้งสายการบินต้นทุนต่ำ ในแง่ของกลยุทธ์ถือว่าดีต่อ THAI เพราะเป็นการลงทุนที่ใช้เงินไม่มากแค่ 100 ล้านบาทเอง และทาง THAI คาดหวังที่จะแย่งมาร์เก็ตแชร์ของสายการบินต้นทุนต่ำด้วย ซึ่งสายการบินแอร์เอเชียล่าสุดปี 2552 มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ประมาณ 30% ในส่วนของสายการบินต้นทุนต่ำ
อย่างไรก็ดี การลงทุนใน Tiger Airways ในช่วงสั้นอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างหลังจากเริ่มมีเสียงคัดค้าน เพราะ THAI มีสายการบินต้นทุนต่ำอยู่แล้วคือ นกแอร์ แต่ที่ผ่านมา THAI และนกแอร์ มีปัญหากันมาตลอด นกแอร์ไม่เคยทำในสิ่งที่ THAI อยากจะให้ทำเลย ขณะที่การแข่งขันในธุรกิจโลว์คอสแอร์ไลน์มีความดุเดือดมากขึ้น ดังนั้น THAI จึงต้องหันไปหา Tiger Airways
ความส่วนตัวมองว่าในที่สุดนกแอร์ก็อาจจะต้องถูกบีบให้ออกจากตลาด เพราะทาง Tiger มีเครื่องบินจำนวนมากและมีทุนหนา อย่างไรก็ดี เรื่องนี้คงจะไม่มีผลต่อราคาหุ้น THAI
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ของ THAI ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท(ไม่รวม FX)ซึ่งเป็นประมาณการที่ทำไว้ในช่วงที่มีเหตุการณ์เผาเมือง แต่พอหลังจากเหตุการณ์ยุติแล้ว มาจนถึงตอนนี้ Cabin Factor ก็ปรับตัวดีขึ้น เมื่อผลดำเนินงานของ THAI ดีขึ้น อาจจะมีการปรับประมาณการกำไรสุทฺธิปีนี้เพิ่มขึ้น คาดว่าจะมาอยู่ที่ 8,000-9,000 ล้านบาท(ไม่รวม FX)เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,344 ล้านบาท เป็นผลจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น
ด้าน น.ส.นริน วิริยะเสถียร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ขณะนี้ Cabin Factor ของ THAI ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดในเดือน ก.ค.53 มาอยู่ที่ 76% เพิ่มขึ้นจากช่วงที่มีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งในช่วงนั้นเมื่อเดือน พ.ค.Cabin Factor อยู่ที่ 57% และเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 65%
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/53)THAI คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น จากการเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season และภาครัฐฯก็ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วย รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นในรูปแบบต่าง ๆเพื่อส่งเสริมการขาย
การร่วมทุนกับ Tiger Airways มองเป็นบวกต่อ THAI เนื่องจากใช้เงินลงทุนแค่ 100 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับ THAI แต่จะทำให้มีการขยายตลาดฯเพิ่มขึ้นได้ แทนที่จะให้แอร์เอเชียกินส่วนแบ่งตลาดไปฝ่ายเดียว อย่างไรก็ดี รายได้ที่จะได้รับกลับมาก็คงจะไม่มากด้วยเช่นกัน
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ของ THAI ไว้ที่ 15,849 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิที่ 7,344 ล้านบาท
ส่วนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ได้แนะนำ"ซื้อ"หุ้น THAI ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 38 บาท/หุ้น เนื่องจากธุรกิจมีการฟื้นตัวขึ้นตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ทำให้ Cabin Factor ฟื้นขึ้น อีกทั้งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน(FX gain)ด้วย ซึ่งปีนี้คาดว่ากำไรจาก FX จะมากถึง 10,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ราคาหุ้น THAI เมื่อเทียบกับ P/BV ของสายการบินอื่นในแถบภูมิภาคเอเชีย ถือได้ว่าราคาหุ้น THAI ยัง Laggard อยู่ อีกทั้งในช่วงไตรมาส 4/53 ก็ถือได้ว่าเป็นช่วง High Season ด้านการท่องเที่ยว ซึ่ง THAI ก็น่าจะได้ประโยชน์
ส่วนการร่วมทุนกับสายการบิน Tiger เป็นบวกเพราะได้พาร์ทเนอร์ที่มี Knowhow และเป้าหมายเพื่อแย่งมาร์เก็ตแชร์จากแอร์เอเชีย ไม่ใช่แย่งจากนกแอร์ แต่นกแอร์อาจจะเสียโอกาสในบางเรื่อง เพราะที่ผ่านมานกแอร์ยังไม่ใช่สายการบิน low cost อย่างแท้จริง
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 15,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,344 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับผลจากกำไรจาก FX, การดำเนินงานที่ดีขึ้น และ Cabin Factor ฟื้นตัว