นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) คาดว่า รายได้ในครึ่งปีหลังนี้จะสูงกว่าครึ่งปีแรก เพราะราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่เฉลี่ย 77-78 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ประกอบกับคาดว่าในไตรมาส 4/53 จะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน โดยคาดว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นปีนี้ ค่าการกลั่นจะเฉลี่ยอยู่ประมาณ 5-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากครึ่งปีแรกอยู่ที่ประมาณ 5.7-5.8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนลงทุนในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า (2553-2557) เป็นเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำมัน(ยูโร 4) จำนวน 2.5 พันล้านบาท โครงการเอทานอลและไบโอดีเซล จำนวน 3 พันล้านบาท งานขยายโครงการโซลาร์เซลล์ อีก 88 เมกกะวัตต์ จำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท และการลงทุนในแหล่งโปแตส อีก 2.5 พันล้านบาท
“แผนการลงทุนของบางจาก 5 ปีข้างหน้าถือว่าเม็ดเงินจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการจัดหาเงินลงทุนแม้ว่าจะมีกระแสเงินสดหลายพันล้านบาท แต่เราก็จะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับพลังงานสะอาดมีทั้ง ADB และสถาบันการเงินในประเทศให้การสนับสนุน คงได้ข้อสรุปเรื่องเงินทันปีนี้" นายอนุสรณ์ กล่าว
สำหรับการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์อีก 88 เมกะวัตต์ ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้วกับ กฟภ. โดยได้รับส่วนเพิ่มค่ารับซื้อไฟฟ้า (แอดเดอร์) ในราคา 8 บาท/หน่วย ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 12% ประกอบกับได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ทำให้คาดว่าโครงการนี้จะได้รับการคืนทุนภายใน 8 ปี โดยกำลังอยู่ระหว่างการจัดหาพื้นที่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะอยู่ในจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา หรือชัยภูมิ สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 38 เมกะวัตต์ ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสัญญาขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. 30 เมกะวัตต์ และกฟภ. 8 เมกะวัตต์