ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 874.92 จุด เพิ่มขึ้น 7.58 จุด(+0.87%)มูลค่าการซื้อขาย 37,635.31 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 875.42 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 870.08 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 230 หลักทรัพย์ ลดลง 153 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 113 หลักทรัพย์
นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียมีทั้งปรับตัวแดนบวก-ลบ ส่วนใหญ่จะทรงตัวในกรอบแคบ ๆ ภายหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ตลาดบ้านเรารับแรงซื้อหลักจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร ตามความสนใจของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/53 และต่อเนื่องไปตลอดปีนี้อยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง โดยในช่วงครึ่งปีแรกเติบโต 10% ในช่วงครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 4-5% แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก แต่ภาพโดยรวมยังดีอยู่ ดังนั้น จึงมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคารอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับวันนี้โบรกเกอร์ต่างชาติขนาดใหญ่คือ Credit Suise(CS)ได้ upgrade หุ้นในกลุ่มแบงก์มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นมาไม่มาก เนื่องจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ดูจะอ่อนลง ทั้งนี้คงมองที่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกยังมีอยู่ และสเปรดของปิโตรเคมียังไม่ดีเท่าไร ทำให้กดดันดัชนีฯไว้ไม่ให้ไปไกลกว่านี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(6 ส.ค.)นายรักพงศ์ กล่าวว่า ตลาดฯมีแนวโน้มที่จะแกว่งบวกต่อไปในลักษณะ Sideway up ทั้งนี้คงให้น้ำหนักไปที่ตลาดสหรัฐฯ ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีข้อมูลทางเศรษฐกิจออกมาทุกวัน โดยคืนนี้ก็จะมีการประกาศตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมา และในคืนวันพรุ่งนี้ก็จะมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ซึ่งนักลงทุนต่างคาดหวังว่าจะออกมาดีขึ้น และจะเป็นตัวหนุนให้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ คาดว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารน่าจะได้รับความน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงานก็คงจะทรงตัว พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 870 จุด แนวต้าน 880 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,090.96 ล้านบาท ปิดที่ 6.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 2,819.68 ล้านบาท ปิดที่ 25.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.45 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,523.30 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,508.69 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,272.95 ล้านบาท ปิดที่ 13.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท