ผู้ถือหุ้น บมจ.ซันไซน์ คอร์เปอเรชั่น(SSE)เสียงส่วนใหญ่ 99.96% ของผู้มีสิทธิออกเสียงที่เข้าร่วมประชุมวันนี้มีมติเห็นชอบให้บริษัทเข้าซื้อหุ้น บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก(EPCO) แม้ว่าที่คณะกรรมการตรวจสอบและที่ปรึกษาการเงินอิสระของ SSE เห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติให้ SSE ซื้อหุ้น EPCO ก็ตาม
อนึ่ง SSE มีแผนจะซื้อหุ้น EPCO จำนวน 204,851,734 หุ้น หรือร้อยละ 43.20 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด (หักหุ้นซื้อคืนแล้ว) จาก บมจ.เอส แพ็ค แอนด์พริ้นท์(SPACK)และ Asia Special Situations MT1 Limited โดย Somers (U.K.)Limited ในราคาหุ้นละ 1.94 บาท มูลค่ารวม 397.41 ล้านบาท ส่งผลให้ SSE ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EPCO ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ได้ทักท้วงเรื่องการเข้าซื้อหุ้น EPCO และกังวลว่าจะเป็นการถือหุ้นระยะสั้น แต่ผู้บริหารบริษัทยืนยันว่าจะถือหุ้นในระยะยาว และผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สนับสนุนด้านการเงินก็จะถือหุ้นระยะยาวเช่นเดียวกัน โดยการซื้อหุ้น EPCO จำนวน 40% มาจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ EPCO
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีรายย่อยเข้ามาเสนอขายหุ้นไม่เกิน 15% โดยบล.ซิกโก้จะเป็นผู้ทำคำเสนอซื้อ ซึ่งจะใช้เงินรองรับ จำนวน 150 ล้านบาท ส่วนอีก 40% ผู้ถือหุ้น EPCO ยืนยันว่าจะไม่ขายออก
ขณะที่นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ SSE กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้เข้าซื้อหุ้น EPCO และยืนยันว่าแม้ที่ปรึกษาอิสระให้ความเห็นว่าไม่ควรซื้อ EPCO และตั้งข้อสังเกตุเรื่องการกู้ยืมเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องมาซื้อหุ้น แต่บริษัทมั่นใจว่า EPCO จะสร้างผลตอบแทนที่ดี รวมถึงมีเงินปันผลอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท พร้อมยืนยันว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ SSE จะถือหุ้น EPCO ไม้น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งในปีนี้ ตั้งใจอย่างมาก ที่จะให้ผลประกอบการของ SSE กลับมามีกำไร และตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 100 ล้านบาทให้หมด
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ บริษัทได้ถอนวาระการพิจารณาการเพิ่มทุน บริษท อควา คอร์ปอเรชั่น หลังจาก ที่ปรึกษาเสนอแนะให้มีการทบทวน เนื่องจากตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับแผนการผลิตรายการโทรทัศน์ แม้ว่าผู้บริหารจะให้ความมั่นใจว่าจะได้ผลิตรายการต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปี แต่ที่ปรึกษามองว่าธุรกิจนี้ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากสัญญาการผลิตรายการมีความไม่แน่นอน ซึ่งมองว่าการทำสัญญาระยะยาวเป็นเรื่องยาก ส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาปีต่อปี
แต่นางชวนพิศ กล่าวว่า SSE มั่นใจว่า บริษัท อควาฯ จะมีรายได้ และมีการเติบโตด้านธุรกิจด้านโฆษณาและผลิตรายการ ซึ่งเชื่อว่าผลการศึกษาและทบทวนการเพิ่มทุนน่าจะแล้วเสร็จในช่วงเดือน ต.ค. 53 ส่วนจะกระทบต่อแผนการเข้าตลาดหรือไม่นั้น บริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะนำ บริษัท อควา คอร์ปอเรชั่น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเชื่อว่าจะต่อยอดธูรกิจกับ EPCO ได้
อนึ่ง ก่อนหน้านี้คณะกรรมการบริษัทให้เพิ่มทุน บริษัท อควา คอร์ปอเรชั่น จำนวน 260.8 ล้านหุ้น จาก 339.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท