นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวในแดนบวก แต่ยังอยู่ในกรอบแคบๆ จากตลาดหุ้นในภูมิภาคและดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาเหนือ 80 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ต่างชาติลงทุนต่อเนื่องหนุน คาดเห็นการกลับมาลงทุนกลุ่มพลังงาน-แบงก์บางตัว แต่นักลงทุนในประเทศยังเป็นเลือกหุ้นขนาดกลางและเล็กและตัวเดิม ๆ รวมทั้งกลุ่มรับเหมาและกลุ่มเดินเรือ ตลาดฯยังเป็นลักษณะการเก็งกำไรและเลือกลงทุนรายตัว พร้อมให้แนวรับ 870 จุด แนวต้าน 880 จุด
นายเตชธร ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบริหารหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ บล.เอเชียพลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวได้ในเชิงบวกเล็กน้อยตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวทั้งตลาดในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวเล็กน้อย และตลาดหุ้นดาวโจนส์ หลังจากจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)คงอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นมาเหนือราคา 80 เหรียญ/บาร์เรล หนุนการกลับมาลงทุนในกลุ่มพลังงาน-แบงก์ แต่จะเลือกเป็นรายตัว
ขณะเดียวกันยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง แม้จะเห็นการขายทำกำไรในช่วงสั้นบาง แต่ก็เป็นสัญญาณดีที่ตลาดหุ้นไทยยืนในแดนบวกได้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในวันนี้น่าจะยังเป็นการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีขนาดกลางและเล็ก รวมถึงตัวเดิม ๆ อย่างกลุ่มรับเหมา และกลุ่มเดินเรือที่ได้รับปัจจัยจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้นประมาณ 4% ประกอบกับ ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมายังปรับขึ้นมาน้อยกว่าตลาด
การปรับขึ้นของราคาน้ำมันเชื่อว่าจะหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานและแบงก์ที่มีแรงขายทำกำไรในช่วงที่ผ่านมากลับมาลงทุนอีกครั้ง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ครม.จะพิจารณาโครงการเช่ารถเมล์ NGV 4 พันคัน จะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุน เพราะจะเห็นภาพการทำงานของรัฐบาล จากก่อนหน้านี้เลื่อนมาหลายครั้ง
พร้อมให้แนวรับที่ 870 จุดและแนวต้านที่ 880 จุด
"คงจะเห็นการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทย แต่การปรับขึ้นคงไม่ได้มากเพราะตอนนี้ถือว่าปรับเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก ก็นน่าจะเห็นการเทขายทำกำไร และการปรับฐานลงมาบ้าง"นายเตชธร กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(09 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,698.75 จุด เพิ่มขึ้น 45.19 จุด (+0.42% %)เอส
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 651.87 ล้านบาทเมื่อ 09 ก.ค.53
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ยาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 81.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 78 เซนต์
- ธทป.ยอมรับแข็งค่าเร็ว โดยยอมรับว่าค่าบาทแข็งค่าในรอบ 2 ปีครึ่ง จากเงินดอลลาร์อ่อนค่า และเงินไหลเข้า นายแบงก์คาดมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องจากเงินทุนไหลเข้าและดอกเบี้ยขาขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เตือนธุรกิจประกันความเสี่ยง พร้อมดูแลหากจำเป็นแต่ยังไม่กระทบภาคส่งออก
- คลัง-สำนักงบฯลงนามเอ็มโอยู จัดทำงบประมาณจะเข้าสู่ภาวะสมดุลปี 2560 ล่าช้าไป 3 ปี หลังจากรัฐบาลยังต้องจัดสรรงบประมาณรายจ่าย เพื่อดูแลประชาชนตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีภาระดอกเบี้ยจ่ายปีละ 1.8 แสนล้านบาท คาดว่าหนี้สาธารณะสูงสุดแตะ 48% ในปี 2557
- "กรณ์"เตรียมจี้ "ประดิษฐ์-โรงงานยาสูบ" ตรวจสอบด่วนกรณีเจ้าหน้าที่โรงงานยาสูบ รับสินบน 64 ล้านบาท จาก 2 บริษัท "ยูนิเวอร์แซล คอร์ป-อลิอันซ์ฮัน อินเตอร์เนชั่นแนล" เพื่อให้ได้สัญญาขายยาสูบในไทย หลัง 2 บริษัทนี้ถูก ก.ล.ต.สหรัฐดำเนินคดีติดสินบน พร้อมย้ำเร่งสอบเรื่องนี้ให้รวดเร็ว โปร่งใส และย้ำหากใครทำพบผิดไม่ไว้หน้า
-"มาร์ค"เตรียมเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพิ่ม รอสรุปรายงานจาก ศอฉ. ด้านปลัดท่องเที่ยวฯ อยากให้ปลดล็อก เชียงใหม่ เชียงราย