นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กโทรนิคส์(SMT) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรสุทธิปี 53 ใหม่อีกครั้งเป็นเติบโตมากกว่า 80% หลังจากที่ล่าสุดได้ปรับมาเป็นเติบโต 60% เมื่อปลายเดือน มี.ค.53 ซึ่งสูงขึ้นจากที่คาดการณ์เมื่อปลายปีก่อนว่าจะเติบโตราว 40%
"เมื่อปลายปีที่แล้วเราคาดว่าปีนี้กำไรสุทธิจะโต 40% แต่พอพ.ค.เราก็ปรับเพิ่มเป็น 60% และเมื่อปลายมิ.ย.ถึงต้นก.ค.หลังจบไตรมาส 2 แล้ว มองว่ากำไรน่าจะโตขึ้นได้อีกจึงปรับเป็น 80% เพราะเห็นท่าทางดีขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ปรับรอให้ผ่านไตรมาส 3 ไปก่อน หรือใกล้ๆปลายไตรมาส 3 ค่อยว่ากันใหม่" นายพลศักดิ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/53 คาดว่ายอดขายจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทำให้ภาพรวมต้องปรับกำไรทั้งปีเพิ่มขึ้น เพราะรายได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเทียบครึ่งแรกปีนี้ดีขึ้นกว่างวดเดียวกันปีก่อน ดังนั้น หากประกาศคาดกำไรทั้งปีไปแล้วรายได้ก็น่าจะสอดคล้องกัน
นายพลศักดิ์ กล่าวว่า ในปีนี้ธุรกิจของบริษัทมีการขยายตัวทุกกลุ่ม โดยเฉพาะจากการที่บริษัทได้มุ่งเน้นผลิตสินค้าระดับไฮเอนด์ที่ให้อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)สูงกว่าสินค้าทั่วไป โดยเฉพาะการผลิตระบบทัชสกรีนรองรับผู้ผลิตสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบ smart phone , ชิ้นส่วนโปรเจ็คเตอร์ และผลิตภัณฑ์ใหม่ป้อนกลุ่มชิ้นส่วนไอซี
ขณะที่แผงวงจรไฟฟ้ารวมแบบระบบไฟฟ้า(MEMS)ที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ก็มีแนวโน้มเติบโตดีจากการผลิตรถยนต์ที่โตมากขึ้นในปีนี้
"สินค้ามาร์จิ้นสูงเหล่านี้ ใช้กลยุทธ์ blue ocean(คู่แข่งน้อย มาร์จินสูง) เนื่องจากการแข่งขันน้อยยังมี room ที่จะทำกำไรได้อีกมาก กลุ่มธุรกิจยังอยู่ในวงจำกัด ซึ่งความต้องการของสินค้าใหม่นี้ growth สูงมากเป็นกระแสนิยม"นายพลศักดิ์ กล่าว
บริษัทตั้งเป้าผลิตสินค้ามาร์จินสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้จะเพิ่มเป็น 40% ของการรับรู้รายได้เชิงมูลค่าเพิ่ม จากปัจจุบันอยู่ที่ 30% ของการรับรู้รายได้ที่เป็นมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรของบริษัท ส่วนธุรกิจผลิตฮาร์ดดิสไดร์ฟ (HDD) ซึ่งเป็นธุรกิจที่มียอดขายสูงแต่มาร์จิ้นไม่สูงมากยังคงต้องผลิตต่อไปเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดและรักษาลูกค้า