นายอนุโรจน์ เสนีย์ประกรณ์ไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์(TLUXE)เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปีนี้จะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 2,400 ล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมสัตว์น้ำขยายตัวเพิ่มขึ้น
ประกอบกับ การได้รับผลดีจากกรณีที่ประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียประสบปัญหาการผลิต ทำให้ผลผลิตลดลง ขณะที่ปริมาณการสั่งซื้อก็เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/53-ไตรมาส 3/53 ที่จะเป็นวัฐจักรของการเพาะสัตว์น้ำ ซึ่งก็น่าจะทำให้รายได้ในไตรมาส 3/53 ออกมาใกล้เคียงกับไตรมาส 2/53 ที่มีรายได้ 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากธุรกิจที่ขยายตัวทำให้บริษัทขยายการผลิตเพิ่มอีก 30,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 ตัน/ปี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเครื่องจักร ใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในต้นปี 54 ขณะที่ปัจจุบันกำลังการผลิตเดิมเกือบเต็มแล้ว
บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาสร้างโรงงานแห่งใหม่บนที่ดินที่บริษัทซื้อที่ จ.สงขลา หรืออาจพัฒนาเป็นคลังสินค้า โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะต้องดูแนวโน้มของอุตสาหกรรมด้วยว่าจะเป็นอย่างไร และลงทุนแล้วคุ้มหรือไม่
นายอนุโรจน์ กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น TLUXE ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในวันนี้น่าจะเป็นเพราะการที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/53 ออกมาดี ตามทิศทางของกลุ่มธุรกิจการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกตัว และหุ้นเราก็เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลที่ดีและต่อเนื่อง นอกจากนี้ในปีนี้ก็จะเริ่มมีกำไรจากบริษัทย่อยที่เวียดนามที่ได้ลงทุนมานานแล้ว
อนึ่ง TLUXE แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/53 มีกำไรสุทธิ 66 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.173 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42.91 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.125 บาท และจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท