(เพิ่มเติม) BANPU คาดเทคฯเหมืองออสเตรเลียเสร็จสิ้น ก.ย.-ต.ค.นี้ รับรู้รายได้ Q4/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 10, 2010 17:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.บ้านปู(BANPU)อนุมัติให้บริษัทย่อยคือ Banpu Minerals (Singapore) หรือ BMS ทั้งหมดของหุ้นบริษัท Centennial Coal ในออสเตรเลียโดยจะทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด 80.1% ในราคา 6.20 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อหุ้น คาดว่าจะสิ้นเสร็จกระบวนการภายในสิ้นเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้

บริษัทคาดว่าหลังจากเข้าซื้อกิจการเหมืองดังกล่าวแล้ว จะทำให้บริษัทถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% จากเดิมที่ถืออยู่ 19.9% สามารถรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 4/53 และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่ 5.8 หมื่นล้านบาท และอีกสาเหตุหนึ่งคือราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้น

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าวว่า เหตุผลที่เสนอราคาซื้อหุ้น Centennial Coal ในราคาสูงกว่าราคาในตลาดหุ้นออสเตรเลียที่เคลื่อนไหวอยู่ที่กว่า 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เนื่องจากต้องการเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ถือหุ้น เพราะดีลนี้จะสำเร็จได้ BMS จะต้องรับซื้ออย่างน้อย 50.1% (รวมที่ซื้อไว้แล้ว 19.9%) จึงจะได้รับอนุมัติตามกฎหมาย

และเพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของบริษัทตามแผน 5 ปี(ปี 53-58) ที่มุ่งธุรกิจถ่านหิน และเน้นขยายธุรกิจในเอเชียแปซิฟิก หากสามารถเข้าซื้อ Centennial Coal ได้จะทำให้เป้าหมายการผลิตเพิ่มเป็น 40 ล้านตันต่อปี โดยมาจากเหมือง Centennial Coal ประมาณ 17-18 ล้านตันต่อปี และจากเหมืองในอินโดนีเซียราว 21 ล้านตัน นอกจากนี้จะทำให้บริษัทมีสินค้าหลากหลายของถ่านหิน

ขณะที่ บล.ภัทร ซึ่งเป็๋นบริษัทที่ปรึกษาการเงินอิสระประเมินราคาเสนอซื้อ หุ้น Centennial Coal ในช่วง 5.99-6.97 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

"เราตั้งราคาหุ้นสูงกว่าตลาดเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้คนมาขายคืน เพราะความสำเร็จต้องไปรอดูว่าจะมีคนมาขายให้เราเกิน 50% เมื่อสิ้นสุดวันที่ 30 สิงหาคม" นายชนินท์ กล่าว

ทั้งนี้ BMS จะทำคำเสนอซื้อสิ้นสุด 31 ส.ค.นี้ หลังจากนั้นขั้นตอนต่อไปจะต้องขอรับอนุญาตจาก Foreign Investment Review Board ของออสเตรเลีย (FIRB)

นายชนินท์ กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งสมมติฐานในการเข้าซื้อหุ้น Centennial Coal ในสัดส่วน 100% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 19.9% บริษัทจะต้องใช้เงินลงทุนรองรับกระบวนการทำคำเสนอซื้อหุ้น 80.1% เป็นเงิน 2,017 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็นเงินไทย 55,294 ล้านบาท (ตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ 27.416 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ณ วันที่ 5 ก.ค.53 )

แหล่งเงินทุนในการทำคำเสนอซื้อในครั้งจะมาจากวงเงินกู้และเงินสดของบริษัทที่มีรวมประมาณ 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทได้วงเงินกู้จากธนาคารในและต่างประทศ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ อายุ 5 ปี ซึ่งบริษัทต้องคำนึงถึงความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้คาดว่าหลังการเข้าซื้อ Centennial Coal ได้ทั้งหมด จะทำให้หนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.45 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.13 เท่า

"หากเข้าซื้อกิจการ Centennial Coal บริษัทจะได้รับกระแสเงินสดเร็วขึ้น โดยรายได้ที่จะเข้ามามีนัยสำคัญ ก็จะช่วยทำให้บริษัทลดหนี้ได้เร็วขึ้น" นายชนินท์ กล่าว

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติการซื้อหุ้น Centennial Coal โดย BMS เข้าซื้อเมื่อ 6 พ.ค.53 จำนวน 14.9% จำนวนเงิน 282 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็น 8,055 ล้านบาท และ เมื่อ 15 มิ.ย. 53 ซื้อเพิ่มอีก 5.0% เป็นเงิน 98 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 2,741 ล้านบาท และเมื่อรวมกับการเข้าทำคำเสนอซื้ออีก 80.1% จะทำกับใช้เงินลงทุนรวม 2,397 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 66,090 ล้านบาท

รวมทั้งอนุมัติให้ BMS เสนอซื้อเพื่อทำการยกเลิก Centennial Option และ Centennial Performance Rights จากผู้ถือหลักทรัพย์ดังกล่าวที่ไม่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นหุ้น เพื่อให้เงื่อนไขเหล่านี้หมดไป

นายชนินท์ กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงในการเข้าซื้อ Centennial Coal นอกเหนือจากหนี้สินของบริษัทที่เพิ่มขึ้นแล้วยังมีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ประกาศหลักการเก็บภาษี Mineral Resource Rent Tax(MRRT)ที่จะมีผล 1 ก.ค.55 แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่แน่นอน เพราะออสเตรเลียอยู่ในช่วงการเลือกตั้งที่กำหนดวันที่ 21 ส.ค.จึงไม่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่

และค่าใช้จ่าจ่ายเกี่ยวกับ Carbon Pollution Reduction Scheme ซึ่งต่อไปหลังปี 58 ก็คาดว่าจะเป็นต้นทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงแนวโน้มการได้ปรับราคาขายถ่านหินของ Centennial Coal ที่สัญญาขายถ่านหินทยอยหมดอายุลงและเจรจาต่อสัญญาก็จะมีการปรับราคาขึ้น

ทั้งนี้ Centennial Coal มีปริมาณสำรองถ่านหิน 386 ล้านตัน ณ วันที่ 30 มิ.ย.53 โดยมีจำนวน 10 หมือง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีแหล่งถ่านหินคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น ขณะนี้ BANPU มีปริมาณสำรองทั้งสิ้น 318 ล้านตัน สิ้น มิ.ย.53

นายชนินท์ ยังกล่าวว่า เหมืองโจ-ร่ง ในอินโดนีเซีย คตาดว่าจะสามารถผบิตและขายได้ในปลายเดือน ก.ย.หรือ ต.ค. ก็จะมีส่วนผลักดันรายได้บริษัทอีกทางหนึ่งด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ