(เพิ่มเติม) PTTEP คาดปี 53 กำไร-ปริมาณขายเกินเป้า,เล็งแบ่งขายหุ้น 5แหล่งก๊าซในพม่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 10, 2010 18:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)คาดว่ากำไรสุทธิในปีนี้จะสูงกว่าเป้าหมาย หลังจากครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรแล้วประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท ถือว่าทำได้ 2 ใน 3 ของเป้าหมายแล้ว โดยบริษัทคาดว่าปริมาณการขายจะสูงกว่าเป้าหมาย 3% จากที่ตั้งไว้ 2.54 แสนบาร์เรล/วัน ครึ่งปีแรกเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 แสนบาร์เรล/วัน และครึ่งปีหลังคาดว่าจะรักษาระดับดังกล่าวไว้ได้

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขึ้นกับราคาน้ำมันและราคาก๊าซ ช่วงครึ่งปีแรกถือว่าราคาเฉลี่ยระหว่างน้ำมันและก๊าซสูงขึ้น โดยช่วงไตรมาส 2/53 ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 46.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากไตรมาส 1/53 อยู่ที่ 42.29 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และแนวโน้มราคายังดีต่อเนื่อง ตามปริมาณการใช้ก๊าซที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เนื่องจากพลังงานน้ำไม่เพียงพอใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า

ประกอบกับ ราคาขายก๊าซในแหล่ง MJDA ไทย-มาเลเซีย สามารถบันทึกราคาสูงถึง 6.5 เหรียญหรัฐ/บาร์เรล ยังเป็นระดับสูงตามสูตรการคิดราคาในสัญญาซื้อขาย

ขณะนี้บริษัทมีกำลังการผลิตจากแหล่งบงกชใต้ 570-580 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟ.)/วัน และสามารถขยายได้สูงสุดถึง 630 ล้าน ลบ.ฟ./วัน และยังมีแหล่งไพลิน ยาดานา เยตากุน ที่มี upside อยู่อีกพอสมควร และในช่วงปลายปีนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซในแหล่ง MJDA เป็น 335 ล้าน ลบ.ฟ./วัน จากปัจจุบัน 300 ล้าน ลบ.ฟ./วัน

สำหรับแหล่งในประเทศพม่า บริษัทมีแผนจะลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 100% ลง แต่ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นไว้ไม่ต่ำกว่า 50% เพื่อเป็นแกนหลักในการบริหารโครงการ เบื้องต้นจะมีการขายหุ้นตามข้อตกลงให้กับรัฐบาลพม่า 15-20% และอยู่ระหว่างการศึกษาหาผู้ร่วมทุนที่มีศักยภาพด้าน oil&gas โดยจะขายหุ้นใน 5 แหล่งที่มี ได้แก่ M3, M4, M7, M9 และ M11 เชื่อว่าจะจูงใจผู้ร่วมทุนมากกว่าแยกขายหุ้นแหล่ง M9 เพียงแหล่งเดียว

"ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน แต่ถ้าเสนอขายเป็นแพคเกจพร้อมกัน 5 แปลง น่าจะมีผู้สนใจจำนวนมาก และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าการขายแหล่ง M9 เพียงแหล่งเดียว"นายอนนต์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังให้ความสำคัญกับการทำ M&A แหล่งปิโตรเลียมในพื้นที่อาเซียน ตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และอาฟริกา ซึ่งขณะนี้บริษัทมีเงินสำรองถึง 700 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้เพื่อการลงทุนในอนาคต แต่หากมีโครงการขนาดใหญ่ บริษัทจะพิจารณาออกหุ้นกู้หรือกู้ยืมเงินเพิ่มเติม แต่เชื่อว่าเงินที่อยู่มีคงเพียงพอ

ส่วนกระแสข่าวที่ทางบริษัทจะเข้าร่วมประมูลแหล่งก๊าซของบีพีในเวียดนามนั้น นายอนนต์ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าจะเข้าซื้อหรือไม่ เนื่องจากต้องดูศักยภาพของแหล่งอย่างละเอียดว่ามีปริมาณก๊าซมากน้อยเพียงใด แต่ถือว่าเวียดนามเป็นหนึ่งในเป้าหมาย รวมถึงบราซิลที่บริษัทแพ้การประมูลโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ถือว่าเป็นประเทศที่มีศัยภาพและยังให้ความสำคัญอยู่

นายอนนต์ กล่าวว่า โครงการมอนทาร่ายังคงแผนการผลิตเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 54 ภายใต้ปริมาณ 3.5 หมื่นบาร์เรล/วัน และมั่นใจว่าจะได้รับเงินประกันชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นครบทั้งจำนวน คาดว่าส่วนที่เหลือราว 200 ล้านเหรียญสหรัฐจะทยอยได้รับตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ถึงปี 54 ขณะที่เชื่อว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะไม่เพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท

ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งหลังของปี 54 บริษัทจะรับรู้รายได้จากแหล่ง 16-1 ในเวียดนาม กำลังผลิต 4 หมื่นบาร์เรล/วัน, แหล่งในแอลจีเรียจะเริ่มผผลิตได้ในปี 55 กำลังผลิต 2 หมื่นบาร์เรล/วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ