นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยอาจมีการรีบาวด์ระหว่างเทรดได้บ้างแต่หลังจากนั้นก็จะมีแรงขายออกมา หลังจากเฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัว ด้านในประเทศปัจจัยการเมืองกดดันจากความไม่มั่นใจเสถียรภาพ คาดเห็นเก็งกำไรรายตัวจากข่าว รวมทั้งกลุ่มเดินเรือและรับเหมา พร้อมให้แนวรับที่ 855 จุด ส่วนแนวต้าน 870 จุด
นายเตชธร ลาภอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์ตราสารทุน บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการเช้านี้คงยังอยู่ในแดนลบ แต่อาจจะน้อยกว่าเมื่อวานที่ปรับลงแรง และในบางช่วงจะมีการรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็จะมีแรงขายทำกำไร เนื่องจากแรงกดดันตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ไม่ได้มีการตอบรับถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐจะมีการขายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ย 0-0.25 % ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้
ขณะที่ปัจจัยภายใน ยังถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศอีกด้วยจากความกังวลในด้านเสถียรภาพทางการเมือง และการเคลื่อนไหวของของแกนนำเสื้อแดง ส่วนต่างชาติ แม้ยังคงซื้อสุทธิอยู่แต่เบาบางลง มองว่าเป็นการซื้อสะสมมากกว่า เพราะเป็นช่วงวันหยุดติดตกันหลายวัน
อย่างไรก็ตาม การลงทุนวันนี้คงเป็นการเก็งกำไร และเลือกลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กจากข่าวที่เกิดขึ้นอย่างกลุ่มเดินเรือที่ได้รับผลบวกจากค่าระวางเรือปรับเพิ่มขึ้น และกลุ่มรับเหมา โดยตลาดฯยังคงกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังเปราะบาง และตลาดฯคงจะยังเป็นลักษณะของการเก็งกำไรในระยะสั้น พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 855 จุด ส่วนแนวต้าน 870 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล นักวิเคราะห์ สำนักวิจัย บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มไม่ค่อยดี เพราะถึงแม้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ตลาดฯมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มเริ่มชะลอตัว และการที่สหรัฐมีแผนออกพันธบัตร ก็ทำให้นักลงทุนเริ่มเห็นว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ชัดขึ้นว่าเศรษฐกิจเริ่มไม่ดี
ประกอบกับ มีสัญญาณที่ไม่ดีจากการที่นักลงทุนต่างประเทศกลับมาขายในตลาดล่วงหน้าหลังจากที่ซื้อมา 7 วันติดต่อกัน และเป็นช่วงใกล้วันหยุดยาว ทำให้นักลงทุนไม่อยากที่จะถือหุ้นข้ามสัปดาห์ แต่โดยรวมคิดว่าตลาดฯยังเป็นการเทรดดิ้งเก็งกำไร ส่วนตลาดหุ้นอื่นในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ลดลงทั้งในเอเชียและดาวโจนส์
แนะให้นักลงทุนติดตามตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯที่จะประการวันคืนนี้ ส่วนในประเทศให้ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จะมีการประกาศออกมาในวันนี้ซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาดีต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 850-855 จุด แนวต้าน 870 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด ( 10 ส.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,644.25 จุด ลดลง 54.50 จุด(-0.51%)เอส
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 167.25 ล้านบาทเมื่อ 10 ส.ค.53
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 80.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง1.23 ดอลลาร์
- "แบงก์ชาติ" ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ต่างชาติปล่อยสินเชื่อเพิ่ม ด้าน "นายแบงก์" ชี้ แต่ละธนาคารมีหลักเกณฑ์การปล่อยอยู่แล้ว หากเข้าตามเกณฑ์พร้อมอนุมัติ ธปท. ประเมินแนวโน้มสินเชื่อไตรมาสที่ 3 ความต้องการเพิ่มในทุกภาคธุรกิจ เหตุเศรษฐกิจฟื้น การเมืองเคลียร์
- “อภิสิทธิ์" เบรกโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน วงเงิน 6.3 หมื่นล้านบาท กลางที่ประชุม ครม. ตั้ง “ไตรรงค์" ศึกษาข้อมูลเพิ่ม 5 ประเด็น ทั้งแผนบริหารพนักงาน ขสมก. 2.3 พันคน ที่ไม่เข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด-ผลกระทบรถเมล์ฟรี-ค่าก่อสร้างอู่จอดรถ-ปั๊มก๊าซเอ็นจีวี
- นายกฯ สั่งให้ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมา โดยจะดูแลไม่ให้เกิดการผันผวนมากเกินไป แต่จะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้น ซึ่งในขณะนี้ได้ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด
- คลังเด้งรับนโยบายงบสมดุลพร้อมฟอร์มทีมแก้กฎหมาย 2 ฉบับลดการตั้งงบชำระหนี้ดึงแบงก์ชาติช่วยจ่ายหนี้กองทุนฟื้นฟูพร้อมหาช่องโยกเงินคงคลังฝากกินดอกเบี้ย หนุนรัฐบาลลดตั้งงบลงทุนหันมาร่วมลงทุนกับเอกชนด้วยวิธี PPPs