ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษลง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ออกมาระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐแนวโน้มว่าจะอยู่ในระดับที่อ่อนตัวกว่าการคาดการณ์
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 131.2 จุด หรือ 2.4% ปิดที่ 5,245.21 จุด
ธนาคารกลางอังกฤษปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวประมาณ 2.5% ในปี 2554 ลดลงจากระดับ 3.4% ที่ได้ประเมินไว้เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน แบงก์ชาติอังกฤษยังได้ทบทวนคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับปีหน้า โดยประเมินว่าจะอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารที่ 2% ไปจนถึงสิ้นปี 2554 ซึ่งยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
เมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ เตือนว่า เศรษฐกิจของอังกฤษจะเผชิญกับการฟื้นตัวที่ไม่มีความแน่นอนในช่วงสองปีข้างหน้า
หุ้นริโอ ทินโต ร่วง 3.1% แตะ 3,256 เพนซ์ ส่วนหุ้นเชลล์ ร่วง 2.3% แตะ 1,780.5 เพนซ์ ขณะที่หุ้นเอชเอสบีซี ลบ 1.9% แตะ 657.5 เพนซ์ และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วง 6.8%