ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 1.14 จุด เหตุจีดีพีญี่ปุ่น-ดัชนีกลุ่มผู้สร้างบ้านสหรัฐอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 17, 2010 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) โดยตลาดเคลื่อนตัวผันผวนตลอดทั้งวัน หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2 และสหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดลบเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยดัชนีการผลิตในรัฐนิวยอร์กที่ดีดตัวขึ้นในเดือนส.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 1.14 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 10,302.01 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.13 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 1,079.38 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 8.39 จุด หรือ 0.39% แตะที่ 2,181.87 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 9.65 พันล้าน มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 1,880 ต่อ 1,090 หุ้น

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลงตั้งแต่ช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลหลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัว 0.4% ต่อปี หรือขยายตัว 0.1% ต่อไตรมาส ถึงแม้ว่าจะทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส แต่ตัวเลขจีดีพีก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะขยายตัว 2.3% ต่อปี และ 0.6% ต่อไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์ทั่วโลกชะลอตัวลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มเห็นผลน้อยลง

ตัวเลขจีดีพีที่อ่อนแอในไตรมาส 2 ส่งผลให้ญี่ปุ่นสูญเสียอันดับประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกให้กับจีน โดยเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 10% ต่อปี ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 3% ในปีนี้ ขณะที่มูลค่าทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 2 สูงถึง 1.335 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เทียบกับญี่ปุ่นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพียง 1.286 ล้านล้านดอลลาร์

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนมากขึ้นเมื่อสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ร่วงลงสู่ระดับ 13 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ

ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 59 จุดบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ซื้อมีมุมมองที่เป็นลบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ และสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในสหรัฐ โดยจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐ ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ขยายตัว 3.7% ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.ร่วงลง 131,000 อัตรา

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากข้อมูลด้านการผลิตที่แข็งแกร่งในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งช่วยให้ดาวโจนส์ปิดลบเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดดีดตัวขึ้น โดยเฟดสาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กเดือนส.ค.ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 7.1 จุด จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 5.1 จุด

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และเฟดจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ค. วันพุธ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ