IVLบวก 3.51% โบรกฯมองดีขึ้นทั้งสเปรด-ปริมาณขาย,ซื้อกิจการเพิ่มใน H2/53

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 17, 2010 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น IVL ราคาวิ่งขึ้น 3.51% มาอยู่ที่ 23.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 535.01 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.47 น. โดยเปิดตลาดที่ 23.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 23.80 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 23.30 บาท

บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)ด้วยมูลค่าเหมาะสม 29 บาท ด้วย PER ที่ 13.3 เท่า ในปี 2554 โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 53 เพิ่มขึ้นจาก 6,311 ล้านบาทเป็น 6,976 ล้านบาท และปี 2554 เพิ่มจาก 8,055 ล้านบาทเป็น 9,760 ล้านบาท

เนื่องจากเห็นว่า IVL ดีขึ้นทั้งสเปรดและปริมาณขาย Key Success ของกิจการอยู่ที่ความสามารถในการทำตลาดและการลดต้นทุน แนวโน้ม 2H53 อาจมีการซื้อกิจการเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อรักษาฐานการผลิตให้เติบโตยิ่งขึ้นทุกปี

IVL มีแผนที่จะเข้าซื้อธุรกิจในสาย Polyester Chain ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนปีละประมาณ 500 ล้านเหรียญฯ(ผ่านการกู้ยืมเงินและใช้ทุนที่มี)ตั้งเป้า ROCE 15% ที่ในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของโครงการ ซึ่งเชื่อว่า IVL จะสามารถใช้ความสามารถทางวิศวกรรมและการตลาดของตนเองเพื่อเข้าซื้อกิจการที่มีปัญหาเพื่อนำมาปรับปรุงโครงสร้างโดยการทำ Debottleneck และวางแผนการขายเพื่อพลิกกิจการให้กลับมาทำกำไรได้ในระยะเวลาอันสั้นและตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรม PET Polymer (ปัจจุบันอยู่อันดับ 2,3) ทั้งที่ไม่ต้องเป็นเจ้าของ Feedstock จึงเชื่อว่าหาก IVL ดำเนินได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะทำให้กำไรของ IVL เพิ่มขึ้นปีละ 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ IVL รายงานผลกำไรไตรมาส 2/53 ที่ 2,089 ล้านบาท สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 1,319 ล้านบาท และปรับตัวสูงขึ้น 36% QoQ มีกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อหรือค่าความนิยมติดลบ 563 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 188 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายและปริมาณขายที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปริมาณขายของ IVL ปรับตัวสูงขึ้นจากการเริ่มดำเนินงานของโรง Alphapet ในสหรัฐอเมริกาและความต้องการใช้ที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก

IVL สามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำได้จากความสามารถในการต่อรองราคาวัตถุดิบที่สูงและการกระจายฐานการผลิตให้อยู่ในทวีป อเมริกา ยุโรปและเอเชีย ทำให้ IVL มี Business Model ที่เป็นคอมมอดิตี้ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าอุตสาหกรรมต้นน้ำและสามารถรับประโยชน์จากอุตสาหกรรมปลายน้ำที่เป็นขาขึ้นได้อย่างเต็มที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ