นายธีรวัฒน์ เกียรติสมภพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. บมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง(GEN)เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดภายใน 2 ปี หรือราวในปี 55 จาก ณ สิ้นไตรมาส 2/53 บริษัทมียอดขาดทุนสะสมประมาณ 170 ล้านบาท พร้อมทั้งคาดว่าจะกลับมามีกำไรในปี 55 เช่นกัน ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้
สำหรับแนวทางการล้างขาดทุนสะสมนั้น บริษัทจะดำเนินการด้วยการหักล้างด้วยการนำรายได้ที่มีเป้าหมายจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น เพื่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต
นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทได้กำหนดแผนธุรกิจที่มีเป้าหมายการเติบโตของรายได้เฉลี่ยปีละ 10% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากมุมมองปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นภายใต้โครงการไทยเข้มแข็งของภาครัฐที่จะเข้ามากระตุ้นงานใหม่ ซึ่งบริษัทก็มีแผนจะเข้าร่วมประมูลงานในปีหน้าด้วย รวมทั้งบริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจรับเหมามากขึ้น เพราะมีพันธมิตรทางธุรกิจป้อนงานให้ โดยการรับงานส่วนใหญ่จะมีมูลค่างาน 300-400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานภาครัฐ 80% และที่เหลือ 20% จะเป็นงานเอกชน
บริษัทยังเชื่อว่ารายได้ในปี 53 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1,200 ล้านบาทหรือเติบโต 10% จากปีก่อน โดยในช่วง 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 468 ล้านบาท และคาดว่าไตรมาส 3/53 รายได้และกำไรจะปรับตัวที่ดีขึ้น จากไตรมาส 2/53 ที่มีผลขาดทุน 4.58 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทรับงานใหม่เพิ่มขึ้น
และมีการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ(Backlog) 800 ล้านบาทในปัจจุบัน ซึ่งจะแบ่งรับรู้รายได้ในปีนี้ 300 ล้านบาท จากโครงการก่อสร้างอาคารในกองพันทหาร จังหวัดปัตตานี , งานก่อสร้างอาคารเรียนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น และที่เหลืออีก 500 ล้านบาทจะรับรู้ฯในปี 54 ประกอบด้วย งานก่อสร้างอาคารจำหน่ายสัตว์เลี้ยงที่ตลาด อตก., งานก่อสร้างอาคารเรียน รร.สาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก และก่อสร้างโรงงานให้กับบริษัทบรรจุภัณฑ์จากประเทศณี่ปุ่นที่ จ.ระยอง
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ 80% มาจากธุรกิจเสาเข็มแผ่นพื้น ซึ่งถือเป็นธุรกิจหลัก ธุรกิจรับเหมา 15% และที่เหลือมาจากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยในปีนี้โครงการคอมเพล็กซ์ที่พัทยา มูลค่า 200 ล้านบาทที่ได้เปิดดำเนินการในช่วงไตรมาส 2/53 นั้นคาดจะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 3/53 หากการเมืองนิ่งและมีเสถียรภาพก็จะเป็นปัจจัยในการผลักดดันรายได้ให้กับบริษัทมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเตรียมขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 2.8 พันล้านหุ้น ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วนการจองซื้อ 1 หุ้นเดิม ต่อ 3 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.06 บาท และหากขายไม่หมดก็จะเสนอขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง 9 ราย ซึ่งรวมถึง บมจ.แคปปิตอล เอนจิเนียริ่ง เน็ทเวอร์ค(CEN)ซึ่งมีบริษัทย่อย คือ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) เคยเป็นคู่ค้ากับ GEN ในการซื้อลวดเหล็กแรงดึงสูงชนิดเส้นเดี่ยว (PC-wire) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเสาเข็ม
นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 20-24 ก.ย นี้ คาดว่าจะมีผู้ถือหุ้นเดิมมาใช้สิทธิ เพราะราคาที่เสนอขายไม่สูง เพื่อนำเงินจากการเพิ่มทุนที่คาดว่าจะได้ประมาณ 170 ล้านบาทไปใช้ในการดำเนินธุรกิจ แต่หากจำนวนหุ้นเหลือก็จะจัดสรรให้ CEN เพราะได้มีการเสนอความสนใจเข้ามา และก็มองว่าทั้งสองบริษัทก็มีการดำเนินธุรกิจเอื้อซึ่งกันและกัน
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าอาจมีความพยายามควบรวมกิจการ CEN และ GEN นั้น คงเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้บริษัทคงให้ความสำคัญในเรื่องการลดต้นทุนการผลิตแป็นสำคัญ ซึ่งการที่ราคาเหล็กมีเสถียรภาพและไม่หวือหวา จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ซึ่งในส่วนบริษัทจะมีการการสต็อคสินค้า 60-90 วัน แต่ก็จะมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์