เมื่อเวลา 10.01 น.หุ้น JAS บวก 2.33% มาอยู่ที่ 1.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท มูลค่าซื้อขาย 187.02 ล้านบาท
หุ้น SAMRT บวก 1.72% มาอยู่ที่ 8.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 99.73 ล้านบาท
นายกวี มานิตสุภาวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส มองว่า ราคาหุ้น บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น(SAMART)และบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล(JAS) ปรับขึ้นมา ตามทิศทางหุ้นในกลุ่มสื่อสาร หลังกทช.ออกมาเปิดเผยผู้สนใจซื้อซองประมูล 3G แล้ว 8 ราย ซึ่งถือว่ากระตุ้นตลาดได้
โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กอย่าง SAMART และ JAS จะเป็นลักษณะการเก็งกำไรระยะสั้นจากข่าวเท่านั้น เพราะหากประเมินในแง่ของธุรกิจถือว่าเสียเปรียบรายใหญ่ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ขณะที่ทั้ง 2 ปริษัทมีฐานลูกค้าน้อยถ้าจะทำก็ต้องเป็นการให้บริการเช่าช่วงเท่านั้น ซึ่งคงไม่คุ้มในการในการที่จะต้องลงทุนด้วย
แต่อย่างไรก็ตามถ้าจะลงทุนก็ให้เข้าเร็วออกเร็ว และเก็งกำไรได้ แต่ถ้าให้ดีแนะนำลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งดีกว่า อย่าง ADVANC DTAC ที่ราคายังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ยังมีช่องในการลงทุน ขณะที่ยังมีโอกาสในการได้รับคัดเลือกเพราะเป็นผู้ประกอบการที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว ผลประกอบการก็แข็งแกร่งและยิ่งถ้าได้รับการประมูลก็ยังมี upside ดังนั้น จึงหาจังหวะสะสมช่วงราคาอ่อนตัวก่อนที่จะมีการประกาศผลในเดือนก.ย ขณะที่ TRUE ก็มีโอกาสได้เช่นกัน เพียงแต่ราคาหุ้นในตอนนี้ตอบรับมาค่อนข้างมากแล้ว
ขณะที่บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต แนะ"เก็งกำไร"SAMART-JAS เรื่องการร่วมทุนพันธมิตรต่างประเทศเพื่อประมูลใบอนุญาต 3G เพราะคาดว่ามีความเป็นไปได้น้อย เพราะยังไม่รู้ว่าจะผ่านการตรวจคุณสมบัติหรือไม่ ที่สำคัญการทำตลาดใหม่แข่งกับรายเดิมต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ส่วนบริษัทร่วมทุนอาจเปลี่ยนใจหากเห็นเกณฑ์การถือครองหุ้นและห้ามต่างชาติเป็นผู้บริหารระดับสูง