นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย(LH Bank)กล่าวว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาพันธมิตรเข้ามาร่วมธุรกิจ โดยขณะนี้มีพันธมิตรต่างประเทศแสดงสนใจราว 5-6 รายทั้งนักลงทุน สถาบันการเงิน และกองทุน ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย ยอมรับว่าสนใจสถาบันการเงินต่างประเทศเป็นพิเศษ หากได้ข้อสรุปก็จะเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ซึ่งคาดว่าทั้งสองขั้นตอนจะทำได้ในราวปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปี 54
"เขากำลังรอดูว่าการเมืองภายในประเทศว่าจะสงบนิ่งเมื่อไหร่ ถ้าถามว่ากลัวไหม เขา(พันธมิตร)ก็บอกว่าไม่กลัว แต่ต้องการให้เห็นภาพที่ชัดเจนกว่านี้"นางศศิธร กล่าว
นางศศิธร กล่าวว่า ธนาคารคาดว่าจะมีการระดมทุนรอบใหม่ 4.5 พันล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 5.5 พันล้านบาท เพื่อเพิ่มทุนจดทะเบียนให้เป็น 1 หมื่นล้านบาท ตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยในการยกระดับเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยจะออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)และขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO)
ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุน ทางพันธมิตรที่จะเข้ามาซื้อหุ้น PP จะถือหุ้นประมาณ 25% ส่วนรายย่อยจะถือหุ้นในสัดส่วน 15% ส่วนที่เหลือเป็นการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่บริษัทในเครือ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(LH)
นอกจากนี้ LH Bank ตั้งเป้าปี 53 กำไรดีขึ้นกว่าปีก่อน โดยคาดว่า ภาพรวมสินเชื่อเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 25 % ซึ่งธนาคารมีแผนปรับโครงสร้างการปล่อยสินเชื่อ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อ SME ขณะที่มีแผนเปิดสาขาใหม่ตามเป้าหมาย 8-9 แห่งต่อปี จากปัจจุบันมีสาขาแล้ว
นางศศิธร กล่าวถึงการดำเนินงานของธนาคารว่า กำไรสุทธิในปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10-15% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นทำให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น คาดว่าภาพรวมสินเชื่อของธนาคารเติบโตเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 25% และจะพยายามรักษาระดับการเติบโตของสินเชื่อในแต่ละปีไม่ให้ต่ำกว่าระดับดังกล่าว
ในช่วงครึ่งปีหลังธนาคารมีแผนปรับโครงสร้างการปล่อยสินเชื่อ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SME)เพิ่มเป็น 40% ของพอร์ตสินเชื่อ จากเดิม 35% ทั้งเพื่อสนับสนุนการขยายกิจการและลงทุนใหม่ ขณะที่สินเชื่อเพื่อการเคหะจะปรับลดดสัดส่วนลงเหลือ 60% จากเดิม 65%
และธนาคารจะขยายฐานเงินฝากด้วยกลยุทธ์ในการใช้สาขาในการบุกเบิกและสร้างฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น โดยภายในสิ้นปีนี้ธนาคารจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 6 สาขา ได้แก่ บางรัก คลองถม คาร์ฟูร์อ่อนนุช สะพานควาย และอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเติมอีก 2 ทำเล คือ ประตูน้ำ และ ศิริราชหรือพรานนก จากปัจจุบันมีสาขาแล้ว 26 สาขา พร้อมกันนั้นธนาคารยังวางแผน 3 ปีที่จะเปิดสาขาให้ได้ 8-9 แห่งต่อปี ไปจนถึงปี 55
นางศศิธร กล่าวว่า ธนาคารยังมีแผนจะเปิดตัวบัตรเอทีเอ็ม LHB ATM ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย บัตรดังกล่าวจะสามารถเบิกถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารทุกแห่งได้ทั่วประเทศ จากเดิมที่เบิกได้เฉพาะตู้ของ LH เท่านั้น และมีแผนจะจัดตั้งบริษัทจัดการลงทุน(บลจ.)ภายในไตรมาส 4/53 หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากธปท.แล้ว