โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"BH เล็งผลบวกช่วงฤดูฝน-จำนวนผู้ป่วยฟื้นกลับมามากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 18, 2010 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์(BH)คาดผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ช่วงครึ่งหลังของปีนี้กำไรจะดีกว่าครึ่งปีแรก โดยจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาส 2/53

BH จะเข้าสู่ High season ในช่วงไตรมาส 3/53 เพราะเป็นช่วงฤดูฝนที่มักจะมีโรคระบาด เช่น ไข้หวัด และไข้เลือดออก บวกกับคาดว่าในไตรมาส 4/53 ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวช่วยเสริมยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก ผลักดันรายได้ช่วง H2/53 ให้เติบโตขึ้น รวมทั้งไม่มีผลกระทบจากการเมืองเหมือนช่วงไตรมาส 2/53

นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยของ BH เริ่มเห็นการกลับมาเป็นบวก โดยในเดือนก.ค.ผู้ป่วยนอก(OPD)เพิ่มขึ้น 4% และผู้ป่วยในก็เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว อีกทั้ง BH มีแผนขยายฐานลูกค้ามากขึ้นและมีการปรับขึ้นราคาค่ารักษา 2% ต่อปีในทุก ๆ ปีด้วย ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะมาสนับสนุนการเติบโตกำไรของ BH ได้

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ในช่วง 1,222-1,398 ล้านบาท ขณะที่ปี 52 มีกำไรสุทธิ 1,246 ล้านบาท

          โบรกเกอร์                     คำแนะนำ       ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.บัวหลวง                      ซื้อ               36.00
          บล.ยูไนเต็ด                      ซื้อเมื่ออ่อนตัว       35.53
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)    ซื้อ               34.75
          บล.เอเชีย พลัส                   ซื้อ               33.75
          บล.เคที ซีมิโก้                    ซื้อ               34.00
          บล.กสิกรไทย                     ซื้อ               33.00
          บล.ไทยพาณิชย์                    ซื้อ               33.90
          บล.เกียรตินาคิน                   ซื้อเมื่ออ่อนตัว       31.00

น.ส.นริน วิริยะเสถียร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)แนะ"ซื้อ"หุ้น BH เนื่องจากมองว่ากำไรน่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นจากช่วงไตรมาส 2/53 โดยกำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/53)น่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลจากในไตรมาส 3/53 จัดเป็นช่วง High season ของธุรกิจโรงพยาบาล และจำนวนคนไข้น่าจะมีการฟื้นตัวเร็ว

นอกจากนี้ ทาง BH เองก็มีแผนจะขยายฐานลูกค้ามากขึ้น อย่างพยายามหาลูกค้าเพิ่มในส่วนของ Domestic ด้วยการทำการตลาด(marketing)มากขึ้น อีกทั้งมีการปรับขึ้นราคาค่ารักษา 2% ต่อปีในทุก ๆ ปีด้วย ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะมาสนับสนุนการเติบโตของกำไร อย่างไรก็ดี การเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลเป็นลักษณะค่อย ๆ เป็นค่อยไปอยู่แล้ว

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ไว้ที่ 1,398 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 1,246 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตกำไรในปีนี้เป็นการเติบโตที่มาจากฐานต่ำ(low base)ของปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วมีปัจจัยเสี่ยงจากเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูไนเต็ด กล่าวว่า ผลกำไรใน Q2/53 ของ BH ออกมาแย่กว่าที่คาดไว้ เป็นเพราะมีบันทึกขาดทุนพิเศษจากการขายเงินลงทุนในศูนย์ฟอกไต(ARC)กว่า 63 ล้านบาท มองว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุดของ BH แล้วในปีนี้ และผลกำไรใน Q3/53 น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ ส่วนหนึ่งจากผลกระทบทางการเมืองลดลงด้วย เพราะเมื่อช่วงไตรมาส 2/53 ที่ตั้งของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์(BH)อยู่ใกล้กับสถานที่ชุมนุมมาก ทำให้ได้รับผลกระทบค่อนข้างจะโดยตรง

อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ป่วยของ BH เริ่มเห็นการกลับมาเป็นบวก โดยในเดือนก.ค.ผู้ป่วยนอก(OPD)ได้เพิ่มขึ้น 4% และผู้ป่วยในก็เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว อีกทั้งช่วงไตรมาส 2/53 โดยปกติจะเป็นช่วง High Season ของโรงพยาบาลเพราะเป็นช่วงฤดูฝน

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 53 ไว้ที่ 1,222 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 52 ที่มีกำไรสุทธิ 1,246 ล้านบาท แต่หากมองในแง่ของกำไรปกติจากการดำเนินงานของปีนี้จะไม่ลดลง แต่กำไรสุทธิลดลงเป็นผลจากปีที่แล้ว BH มีกำไรพิเศษเข้ามากว่า 50 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ในช่วงไตรมาส 2/53 กลับมีขาดทุนพิเศษจากการขาย ARC ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้คงจะลดลงกว่าปี 52

ด้านบล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น BH เพื่อรอรับเงินปันผลและการฟื้นตัวในช่วง H2/53 โดย BH กำลังเข้าสู่ High season ในช่วง Q3/53 และคาดว่าผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว อีกทั้งยังคาดหมายเงินปันผลสำหรับปี 53 ในอัตรา 0.9 บาท หรือคิดเป็น Dividend yield 3.0% ต่อปี ยังสูงกว่าอัตราผลตอบแทนจากตลาดเงิน ล่าสุดได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 1H53 แล้วราว 0.40 บาท

แม้กำไรที่ตกต่ำในงวด 2Q53 จะฉุดให้กำไรโดยรวมของช่วง 1H53 มีสัดส่วนราว 42% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี 53 แต่อย่างไรก็ตามคาดว่า 2H53 จะฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากปัญหาทางการเมืองคลี่คลายลง ซึ่งจะส่งผลให้ยอดผู้ป่วยเริ่มกลับสู่ระดับปกติอีกครั้งสะท้อนจากยอดผู้ป่วยโดยรวมในช่วงต้นเดือน ก.ค.53 เติบโตราว 4% yoy ฟื้นตัวจากเดือนก่อนหน้า

ประกอบกับในไตรมาส 3 ของทุกปีเป็นฤดูฝน ที่มักจะมีโรคระบาด เช่น ไข้หวัด และไข้เลือดออก บวกกับคาดว่าในไตรมาส 4 ของทุกปี ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวจึงคาดว่าจะช่วยให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผลักดันรายได้ในช่วง 2H53 ให้เติบโตขึ้นตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ