บมจ.โกลว์พลังงาน(GLOW)คาดว่าในปี 54 กำไรสุทธิของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 6 พันล้านบาท จากระดับ 4.8-4.9 พันล้านบาทในปี 53 ขณะที่กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยรวมจะปรับเพิ่มขึ้นมาที่ 3,275 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,118 เมกะวัตต์ หรือสูงขึ้นราว 55%
นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงิน GLOW กล่าวว่า กำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจะมาจากโรงไฟฟ้าถ่านหินมาบตาพุด รวมทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซขนาด 382 เมกะวัตต์ที่จะเดินเครื่อง ก.ย.54 และ โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน (GLOW ถือหุ้น 65%) เดินเครื่องเดือน พ.ย.54 จากนั้นในปี 55 ทั้งสองโรงจะผลิตเต็มทั้งปี
"กำไรสุทธิปีหน้า ต้องโตมากกว่ากำลังการผลิตที่เพิ่มขึ่น 55% แน่นอน แต่จะ เท่าไรต้องขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนด้วย แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเรากลายเป็นผู้ผลิตไฟรายใหญ่รายเดียวที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นใน 1-2 ปี ขณะที่รายอื่นกว่าจะมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ต้องรออย่างน้อย 5 ปี"นายสุทธิวงศ์ กล่าว
ส่วนในปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวลดลงจากครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 2.6 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วงปลายปีนี้จะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า
นายสุทธิวงศ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการรอขอทำรายงานผลกระทบต่อสุขภาพ(HIA)สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าของบริษัท โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ขนาด 660 เมกกะวัตต์ที่จะตั้งอยู่ในพื้นมาบตาพุด รวมถึงโรงไฟฟ้าทุกโรงของบริษัทเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพในอนาคตอีก ซึ่งโรงไฟฟ้า IPP เข้าข่ายอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบรุนแรง
สำหรับการจ่ายเงินปันผล บริษัทยืนยันว่าในงวดปีนี้จะจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน และบริษัทจะปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลปีละ 5% จากนโยบายจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิ ส่วนจะมีการจ่ายปันผลพิเศษหรือไม่ ต้องขึ้นกับการลงทุนในอนาคตด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องการรักษาระดับอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ให้อยู่ต่ำกว่า 1 เท่า และหากมีการลงทุนขนาดใหญ่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทจึงมาพิจารณาในเรื่องการเพิ่มทุน ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับโอกาสการลงทุนในอนาคต โดยปี 54 บริษัทมีแผนการลงทุนจำนวน 3 พันล้านบาท จะใช้วงเงินกู้ในการสร้างโรงไฟฟ้าต่อเนื่องจากโครงการในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีแผนการออกหุ้นกู้จำนวน 3 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะออกได้ในช่วงไตรมาส 2/54
นอกจากนั้น บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในการยื่นเสนอโครงการโรงไฟฟ้า SPP ขนาด 240 เมกกะวัตต์ต่อกระทรวงพลังงานที่จะเปิดให้ยื่นขออนุญาตรอบใหม่จำนวนทั้งหมด 2 พันเมกกะวัตต์ โดยคาดว่าจะตั้งในพื้นที่มาบตาพุดเช่นกัน