นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี(TKS)เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิในปี 53 เติบโตกว่า 100% จากปีก่อน หลังจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกกำไรสุทธิเติบโตแล้ว 138% มาเป็น 75 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 31 ล้านบาท ส่วนรายได้คาดว่าจะเติบโต 15% จากปีก่อนทำรายได้ราว 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ กำไรสุทธิครึ่งปีแรก แบ่งการรับรู้จากกำไรการดำเนินงาน 22.30 ล้านบาท และกำไรจากเงินปันผลจากบมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย)(SYNEX)ที่ TKS ถือหุ้นอยู่ประมาณ 40% จำนวน 53.13 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าครึ่งปีหลังบริษัทยังมีกำไรจากการดำเนินงานต่อเนื่องสาเหตุจากบริษัทมีการลดต้นทุนการผลิตและปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 20% ขณะที่ครึ่งปีแรกมีอัตรากำไรขั้นต้นถึง 42%
บริษัทคาดว่าครึ่งปีหลังยังคงเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกได้ จากการขยายตัวในทิศทางที่ดีของธุรกิจบริหารคลังสินค้า งานพิมพ์ดิจิตอล และงานพิมพ์ Advance&Security เพราะเป็นงานที่รองรับความต้องการลดต้นทุนของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยธุรกิจบริหารคลังสินค้าของ TKS มุ่งให้ลูกค้าลดภาระเรื่องการจัดพิมพ์ จัดเก็บ และจัดส่งเอกสารทั้งหมด ซึ่งเชื่อว่าตลาดเหล่านี้จะขยายตัวได้
รวมทั้งตลาดส่งออกจากที่ลูกค้าจากต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจงานพิมพ์ของบริษัทฯ มากขึ้น หลังจากที่ได้รับรางวัลจากการประกวดงานพิมพ์ในระดับนานาชาติหลายรางวัลในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า TKS สามารถผลิตงานพิมพ์ได้ในระดับเวิลด์คลาส ดังนั้น เมื่อรวมกับธุรกิจการพิมพ์ที่เริ่มฟื้นตัว และงานอื่นๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
"เราค่อนข้างมั่นใจว่าครึ่งปีหลังผลประกอบการของ TKS ยังเติบโตได้ดี เพราะยังมีงานเข้ามาต่อเนื่องทั้งงานพิมพ์แสตมป์ของ 7-ELEVEN และงานพิมพ์ไปรษณียบัตรป้อนให้กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อเป็นสต็อกใหม่ หลังจากที่ส่วนใหญ่ได้ขายไปในช่วงทายผลฟุตบอลโลก ในขณะที่งานบริหารคลังสินค้าก็ยังเติบโตเช่นเดียวกับงานจากต่างประเทศ"นางสาวศิริวรรณ กล่าว
สำหรับงานพิมพ์ของ 7-ELEVEN มีมูลค่างานกว่า 30 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน 100% และยังมีงานของกรมสรรพากร, ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย รวมทั้งยังมีงานที่มีมูลค่าระดับ 10 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 2 โครงการ คาดว่าจะได้ข้อสรุปงานใหม่ในปีนี้ แต่จะรับรู้รายได้ในปีหน้า
ขณะที่ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 40 ล้านบาท โดยลงทุนเครื่องจักรไปแล้ว 1 เครื่อง และหากได้งานใหม่จะลงทุนเครื่องจักรอีก 2 เครื่องเพื่อรองรับงาน
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนการขยายตลาดไปต่างประเทศ อาทิ สหรัฐ ยุโรป หลังจากทำตลาดในออสเตรเลียและพม่า ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 20%
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมุ่งผลักดันให้กำไรเติบโตไปในทิศทางเดียวกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยได้หันมาบริหารต้นทุนด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างระมัดระวังและต่อเนื่อง ทั้งการลดการสูญเสียของกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการขนส่งและอื่นๆ เชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit Margin)ขยายตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/53 สะท้อนให้ผลประกอบการเติบโตในทิศทางที่ดีเช่นเดียวกัน ซึ่งยังไม่รวมการรับรู้รายได้จากเงินปันผลในบริษัทร่วม คือ SYNEX